ในปัจจุบัน ผู้คนทั่วโลกได้หันมาตระหนักและใส่ใจกับการดูแลสุขภาพและรูปร่างกันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการมีรูปร่างที่ดีและสมส่วนจะช่วยสร้างความประทับใจแรกพบ เราปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบนั้นเป็นเสมือนใบเบิกทางนำไปสู่ความสำเร็จต่างๆ แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีรูปร่างในฝันที่สมบูรณ์แบบเสมอไป ด้วยข้อจำกัดที่แตกต่างกัน หลายๆ ท่านอาจไม่มีเวลามากเพียงพอที่จะออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่องหรือควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด หรือถึงแม้ปฏิบัติตามหลักโภชนาการและออกกำลังกายอย่างเป็นประจำแล้ว รูปร่างก็ยังไม่เพรียวกระชับอย่างที่ต้องการ ปัจจัยต่างๆ เช่น การที่มีอายุเพิ่มขึ้นส่งผลระบบเผาผลาญทำงานได้น้อยลง ภาวะหลังคลอด ผลพวงจากพันธุกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนยังอาจทำให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกินตามจุดต่างๆ ของร่างกาย เช่น สะโพก ก้น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง น่อง ปีกหลัง ฯลฯ การทำศัลยกรรมดูดไขมันจึงกลายมาเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ในการเนรมิตรูปร่างในผันให้สมส่วน โดยนิยามของการดูดไขมัน คือ การนำเซลล์ไขมันออกจากร่างกายในบริเวณที่เราไม่สามารถกำจัดได้ไม่ว่าจะด้วยการออกกำลังกายหรือการควบคุมอาหาร ซึ่งการดูดไขมันที่สมบูรณ์แบบไม่เพียงแต่เป็นการนำไขมันออกเท่านั้น แต่ยังต้องสามารถสร้างสัดส่วนที่สวยงาม ทำให้ผิวตึงกระชับ เรียบเนียน กำจัดปัญหาผิวคลื่นหรือเปลือกส้มอย่างได้ผล
เตรียมตัวก่อนดูดไขมัน เรื่องสำคัญที่ควร(ต้อง) รู้
- ศึกษาข้อมูลในการดูดไขมันอย่างละเอียด เทคนิค ข้อดีข้อเสีย ฯลฯรวมถึงเลือกเข้ารับบริการกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้อาจสืบค้นได้จากอินเทอร์เน็ตหรือค้นหารีวิวจากผู้ที่เคยทำมาก่อน เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ
- เข้ารับคำปรึกษาจากศัลยแพทย์ เพื่อให้สามารถซักถามข้อมูลต่างๆ และเพื่อให้แพทย์ทำการประเมิน วิเคราะห์โครงสร้างร่างกายและตรวจหาปริมาณไขมันเดิมที่มีอยู่ก่อน รวมถึงประเมินความคาดหวังของผู้เข้ารับบริการว่ารูปแบบการดูดไขมันนั้นๆ สามารถตอบสนองสิ่งที่ผู้เข้ารับบริการต้องการได้หรือไม่ หรืออาจนำเสนอทางเลือกอื่นๆ ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าหรือเหมาะสมกว่า
- งดยาแก้ปวด ยาสมุนไพร วิตามินและอาหารเสริมอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ รวมถึงวิตามินอีและวิตามินเอที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดและทำให้การปิดบาดแผลของระบบเลือดทำงานได้ช้าลง
- งดการดื่มสุราและสูบบุหรี่อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ รวมถึงการใช้นิโคตินหรือบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคตินก่อนและหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ทำให้แผลหายช้าและส่งผลต่ออาการบวมได้
- แจ้งประวัติการแพ้ยา อาหารเสริมที่รับประทานอยู่ และโรคประจำตัวก่อนเข้ารับบริการ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความผิดพลาดหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
- งดน้ำและอาหารก่อนเข้ารับบริการอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง รวมถึงการพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดหรือเป็นกังวล ก่อนเข้ารับบริการควรชำระร่างกายให้สะอาด
- จัดตารางพักรักษาตัวประมาณ 3-5 วัน และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งการดูแลตนเองหลังการดูดไขมัน และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดก็เป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด รวมถึงจัดการการวางแผนการเดินทางให้รัดกุมในกรณีที่ต้องเดินทางไกลอาจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลการรักษา
- เตรียมตัวรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงที่เกิดจากผลข้างเคียงจากการใช้ยาสลบหรือยาชาที่ใช้ในขณะทำศัลยกรรม อาการบวมช้ำหรืออาการเขียว ฯลฯ โดยสามารถขอคำปรึกษาแพทย์ผู้ให้บริการ
- การดูดไขมันใช้เวลากว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่เเท้จริงในช่วงแรกผิวหนังบริเวณที่ทำอาจเขียวช้ำหรือมีอาการบวมค่อนข้างมาก ซึ่งอาการต่างๆ จะค่อยๆ ลดลงภายใน 2-4 สัปดาห์ และอาจต้องใช้ระยะเวลากว่าจะเข้าที่
ที่ Dermaster เราคัดสรรเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สุดซึ่งจะช่วยเนรมิตรูปร่างอันสมบูรณ์แบบไร้ที่ติให้กับท่าน ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาและแก้ไขทุกปัญหาด้านรูปร่างและสรีระด้วยความใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด ท่านจึงสามารถมั่นใจในผลลัพธ์ที่ท่านปรารถนา
กระบวนการในการกระชับรูปร่างที่ทันสมัยที่สุดในวงการความงาม ในปัจจุบันที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุเป็นตัวช่วยลด กระชับ และปรับทรวดทรง ให้ได้สัดส่วนสวยงาม ผู้คนจำนวนมากเลือกวิธีการดูดไขมันในการช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินสะสมที่กำจัดได้ ยากแม้ว่าจะออกกำลังกายสม่ำเสมอหรือควบคุมอาหารแล้วก็ตาม บริเวณที่ทำการดูด ไขมันจะมีขนาดเล็กลงทันที นอกจากนั้นร่างกายจะไม่สร้างเซลล์ไขมันที่ถูกดูดออกไป ในบริเวณนั้นๆ ขึ้นมาแทนที่ ผลลัพธ์ที่ได้จึงคงอยู่ได้นาน
Bodytite RFAL เป็นนวัตกรรมล่าสุดในการปรับรูปร่าง โดยการกำจัดไขมันสะสมที่กำจัดยาก ตามส่วนต่างๆ เช่น หน้าท้อง สะโพก บั้นท้าย ต้นขา เข่า ต้นแขน และหลัง
วิธีการในการดูดไขมัน Bodytite
แพทย์จะใช้เทคโนโลยี Bodytite ซึ่งเป็นวิธีการในการกระชับทรวดทรงที่ปลอดภัย อ่อนโยน และละเอียดอ่อนแพทย์จะเจาะ
รูเล็กๆ บริเวณที่ต้องการกำจัดไขมัน เพื่อที่คลื่น RFAL จะค่อยๆ เข้าไปละลายไขมัน และดูดไขมันส่วนเกินออกทางรูนั้น การละลายไขมันก่อนที่จะดูดออกมาทำให้เกิดบาดแผลและความบอบช้ำน้อยลง ลดอาการเจ็บปวด และอาการบวมหลัง การดูดไขมันได้อย่างมาก Bodytite สามารถช่วยกำจัดไขมันสะสมพร้อมกระชับสัดส่วน มอบเรือนร่างใหม่ที่กระชับสมส่วน ให้แก่คุณ
Bodytite ช่วยกระชับรูปร่างได้อย่างไร
คุณสมบัติที่โดดเด่นเฉพาะตัวอย่างหนึ่งของ Bodytite คือความสามารถในการกระชับผิว พร้อมส่งผ่านความร้อนอย่างอ่อนโยนและตรงจุดไปยังเซลล์ไขมันบริเวณที่ต้องการกำจัดออก ซึ่งจะส่งผลให้รูปร่างกระชับตึงตามต้องการ
Bodytite ดีกว่าการดูดไขมันด้วยวิธีการดั้งเดิมอย่างไร
เมื่อคุณอายุมากขึ้น หรือมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น ผิวหนังจะยืดหยุ่นน้อยลง การดูดไขมันแบบเดิมจะยิ่งทำให้ผิวหนัง บริเวณที่ได้รับการดูดไขมันดูไม่เรียบเป็นก้อน คนไข้ที่มีผิวหนังหย่อนยาน และ/หรือแตกลาย เหมาะกับ Bodytite มาก เนื่องจาก คลื่น RF จะช่วยกระชับผิว โอกาสที่ผิวหนังจะหย่อนยานยิ่งขึ้นหลังการดูดไขมันจะลดน้อยลง เมื่อเทียบกับการ ดูดไขมันแบบเดิม Boytite คือทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า อ่อนโยนกว่า และบอบช้ำน้อยกว่าอีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ อาการเจ็บปวด และฟกช้ำหลังการรักษาน้อยมาก
การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมัน
Bodytite เป็นวิธีการที่ก่อให้เกิดความบอบช้ำแก่ร่างกายน้อยมาก แพทย์จะใช้เพียง ยาชาเฉพาะที่หรือยานอนหลับอ่อนๆ กับคนไข้ คนไข้สามารถกลับบ้านได้เลย หลังรับการ รักษาและสามารถกลับไปทำงานตามปกติได้ภายในไม่กี่วันหลังจากนั้น คนไข้ต้องใส่ผ้ารัดเพื่อพยุงส่วนที่ทำการดูดไขมัน และสามารถเริ่มออกกำลังกายหนัก ได้ โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
ผลลัพธ์ จะเห็นได้ทันที และจะยิ่งเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 6-12 สัปดาห์ หลังการรักษา
DISCLAIMER: There’s no guarantee of specific results and that the results can vary (ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล)