ฟิลเลอร์ คืออะไร(Filler)

การเติมเต็มใบหน้า หรือชื่อที่เรียกกันอย่างแพร่หลายก็คือ ฟิลเลอร์ Filler ซึ่งสามารถแบ่างออกได้หลายชนิด โดยชนิดที่ได้รับรองว่าปลอดภัย และผ่าน อย.ในไทยมีเพียงชนิดเดียวคือ HA Filler (Hyaluronic acid Filler) เป็นสารที่เลียนแบบธรรมชาติ เพื่อช่วยเติมเต็มในชั้นใต้ผิวหนัง และแก้ไขโครงสร้างใต้ผิว โดยที่สาร Hyaluronic acid สามารถช่วยกักเก็บน้ำให้แก่ชั้นใต้ผิว ช่วยทำให้ใบหน้าดูเต่งตึง ดูอิ่มน้ำ และยังเป็นการเติมเส้นใยคอลลาเจนที่หายไป ให้ผิวนั้นดูอ่อนเยาว์ และเมื่ออายุเริ่มมากขึ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังจะเริ่มฝ่อลง ทำให้ผิวที่เต่งตึงนั้นหายไป ทำให้เกิดเป็นริ้วรอยร่องลึก และการดูผิวด้วยสกินแคร์อาจไม่เพียงพออีกต่อไป ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด และนอกจากการแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกแล้ว ฟิลเลอร์ (Filler) ยังสามารถช่วยแก้ไขจุดบกพร่องอื่นๆ อย่างการปรับรูปหน้า เช่น เติมขมับ หน้าผาก คาง แก้ม ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) จึงเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยม และในปัจจุบันฟิลเลอร์ (Filler) ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่เติมเต็มในส่วนต่างๆ แต่ยังมีการใช้ฟิลเลอร์ (Filler) เพื่อปรับสภาพผิว ให้ผิวนั้นอุ้มน้ำ และชุ่มชื้นมากขึ้น ใบหน้าดูฉ่ำวาวขึ้นอีกด้วย

ฟิลเลอร์ (Filler) สามารถฉีดจุดไหนได้บ้าง?

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอย หรือ การเติมเต็มจุดที่บกพร่อง สามารถใช้การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ได้ในหลายตำแหน่ง และสำหรับตำแหน่งบนใบหน้าที่แพทย์แนะนำที่สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ทั้งหมด 7 จุด

1. ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ไขปัญหาผิวที่ดูหย่อนคล้อย เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นกระดูกใต้ตาจะยุบลง เนื้อบริเวณนั้นน้อยลง การเติมเต็มด้วยการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ทำให้หน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ และดูสดใสขึ้น

2. ฟิลเลอร์คาง สำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูสมสัดส่วน หรือต้องการให้รูปหน้าดูวีเชฟ ถ้าฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็จะทำให้ไดผลลัพธืที่ดี ดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นก้อน

ประเภทของฟิลเลอร์ (Filler)

ฟิลเลอร์ (Filler) นั้นมีอยู่ 2 ประเภทคือ

1. ฟิลเลอร์ (Filler) แบบชั่วคราว
   ฉีดฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราวจะเป็นสารไฮยารูโรนิกแอซิดซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณที่ต้องการแก้ไขแล้วจะคงอยู่ได้ประมาณ 1-2ปี ฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราวจัดว่ามีความปลอดภัยสูง สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
2. ฟิลเลอร์ (Filler) แบบถาวร
   ฉีดฟิลเลอร์แบบถาวรเคยเป็นที่นิยมเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว แต่เนื่องจากมีภาวะแทรกซ้อนและเกิดปัญหาเยอะจึงไม่เป็นที่นิยม ฟิล้เลอร์ชนิดถาวร เช่น เม็ดพลาสติก ซิลิโคน หรือน้ำมันพาราฟิน ซึ่งจะให้ผลลัพธ์แบบถาวรที่ไม่สามารถสลายออกเองได้ การกำจัดออกมีวิธีการผ่าขูดออกเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) จะต้องทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการ์ณและความเชี่ยวชาญเพราะการฉีดฟิลเลอร์จะต้องฉีดวางฟิลเลอร์ให้ถูกต้องและถูกตำแหน่ง เพื่อผลลัพธ์ที่สวยและดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูก้อนบนใบหน้า

เวลาในการฉีดฟิลเลอร์นั้นใช้เวลาเพียงไม่นาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน  โดยรวมประมาณเวลาการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) อยู่ที่ประมาณ 30นาที ถึง 1ชั่วโมง หลังจากฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คนไข้สามารถเห็นความแตกต่างในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ได้ทันที และผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจนขึ้นและดูเป็นธรรมชาติหลังจากฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ไปแล้ว 4-5วัน เนื่องจากหลังจากฉีดฟิลเลอร์ในบางเคสอาจจะมีอาการบวมแดงและช้ำอยู่บ้าง และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดการดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นเรื่องสำคัญ และนี่คือ 7 ข้อที่ควรปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ที่เต็มประสิทธิภาพ

ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
หลังการฉีดฟิลเลอร์ไปสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งคือห้ามนวด กด รวมถึงการสัมผัสแรงๆในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ไปจากบริเวณที่ฉีด และในบางเคสแพทย์ใช้การฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกหน้า การนวดทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่แพทย์วางแผนไว้หรือทำให้ไม่ได้ผลเลย

2.หลีกเลี่ยงความร้อน และแสงแดด
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ไป ผิวของเราอาจจะมีความเซ็นต์ซิทีฟมากกว่าปกติ ด้วยรอยเข็มหลายๆรูบนหน้า การโดนความร้อนอาจทำให้เกิดรอยแดง ระคายเคืองและผื่นขึ้นได้ โดยปกติแล้วในช่วง 48 ชั่วโมงแรก แพทย์จะแนะนำไม่ให้ผู้เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์โดนความร้อนที่มีอุณหภูมิสูง เช่นการเข้าห้องซาวน่า ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์สลยอย่างที่ใครๆพูดกัน แต่ความร้อนทำให้ผิวยืดหดมากกว่าปกติ ส่งผลต่องการเซทตัวของฟิลเลอร์

3.งดการรับประทานอาหารเสริมบางชนิดที่มีส่วนประกอบของกรดผลไม้
ควรหลีกเลี่ยงการทานวิตามินบางชนิดเช่น กิงโกะ น้ำมันพริมโรส กระเทียม โสม และวิตามินอี ทั้งก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากสารเหล่านั้นจะทำให้คนไข้เสี่ยงกับ “ภาวะช้ำ” ได้ง่ายกว่าปกติ

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของ AHA BHA หรือ Retinoids ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวและบริเวณที่ฉีดสารฟิลเลอร์ได้อีกด้วย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงก่อนชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย

4.งดการใช้ยากลุ่มที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และยาแก้อักเสบบางชนิดเป็นยาที่ควรหลีกเลี่ยงทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์เพราะการฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดลงไปในผิวหนังชั้นลึก ถ้าเกิดโดนเส้นเลือดขณะฉีดอาจทำให้เลือดหยุดไหลช้าทำให้ช้ำง่ายกว่าปกติ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย และไม่เสี่ยงช้ำควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาดังกล่าวอย่างน้อย 1 สัปดาห์

5.ดื่มน้ำมากๆ
เพราะฟิลเลอร์ (Filler) ฟิลเลอร์คือสารไฮยาลูลอนิคซึ่งมีฤทธิ์ในการอุ้มน้ำ หลังจากฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 4 – 5 วันแรก แพทย์จึงแนะนำให้ดื่มน้ำให้อย่างน้อยวันละ 8 – 10 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตรต่อวันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคงทน  เพราะการดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ดูเต็มเป็นธรรมชาติ

6.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
หลังจากฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้งดการดื่มแอลกอลฮอล์ เนื่องจากและการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เลือดสูบฉีด อาจจะทำให้เลือกออกในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้  การสูบบุหรี่หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น สูบบุหรี่หลังฉีดฟิลเลอร์ที่ปากอาจจะทำให้รูปลักษณ์ที่คุณหมอสร้างขึ้นมาเป็นปากกระจับอาจจะผิดรูปได้ เพราะฉะนั้นแนะนำให้งดเหล้า แอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่หลังฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อยก็ประมาณ 2 -3 วันค่ะ

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง

• อย่างแรกเลยคลินิกต้องได้มาตราฐาน มีใบอนุญาติรับรองอย่างถูกต้อง และ ดำเนินการโดยแพทย์เท่านั้น
• ความน่าเชื่อถือของแพทย์ สามารถนำชื่อ – นามสกุล เข้าไปตรวจในแพทย์สภาได้ รวมถึงแพทย์ผุ้ดำเนินการต้องมีประสบการ์ณและความชำนาญสูงเพื่อผลลัพธ์ที่คุรพึงพอใจ
• ฟิลเลอร์ (Filler) ที่ใช้เป็นของแท้เท่านั้น เพื่อไม่ให้คนไข้เกิดเอฟเฟกด้านลบและอาการดื้อยาซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการรักษา
• อุปกรณ์ทุกชิ้นก่อนการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ผ่านการฆ่าเชื้ออย่าง Sterile ซึ่งมีความสะอาดเเละเพิ่มความปลอดภัยให้กับคุณลูกค้า

ติดตามข้อมูลข่าวสารและโปรโมชั่นของ DERMASTER ได้ทุกช่องทาง

📌 Facebook  : @dermasterthailand คลิ๊ก

📌 Instagram : dermaster_ คลิ๊ก

📌 Line Official : @dermaster คลิ๊ก

📌 ลงทะเบียนปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ : คลิ๊ก