• 342 Ekamai Rd, Bangkok 10110
  • Mon - Sun: 09:00 - 20:00
  • 44/1 Asoke-Dindaeng Rd, Bangkok 10310
  • Mon-Sun: 11:00 - 19:00
  • 16/7 North Sathorn Rd, Silom, Bangkok 10500
  • Mon-Sun: 11:00 - 20:00
  • 1025 Ploenchit Rd, Lumpini, Bangkok 10330
  • Mon-Sun: 11:00 - 20:00
  • 1416 ซอย ลาดพร้าว 87 แขวง คลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
  • Mon-Sun: 11:00 - 20:00

ถาม – ตอบ ปัญหาการปลูกผม เทคนิค FUE

ถาม – ตอบ ปัญหาการปลูกผม เทคนิค FUE

dermaster-content-fue-review9

หลังจากปลูกผมครบ 3 สัปดาห์ จิ๊บได้มาติดตามผลกับคุณหมอเพชรที่ Dermaster เช่นเคย โดยในครั้งนี้มีการถ่ายทอดสดเพื่อบอกเล่าประสบการณ์ให้กับผู้ชมทางบ้านได้ฟังด้วย ใครที่อยากดูไลฟ์ย้อนหลัง สามารถดูได้ที่ เฟซบุ๊ก Dermaster หรือบนยูทูปของ HD ได้เลย

ใครอยากอ่านรีวิวปลูกผมของจิ๊บ ตามไปอ่านกันได้ที่นี่เลย รีวิว ปลูกผม ด้วยเทคนิค FUE ผมแน่น เต็มทุกพื้นที่ ตามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมิน ที่ Dermaster

คุณหมอคณวัฒน์ หรือคุณหมอเพชรเล่าว่า วันแรกที่คุณจิ๊บเข้ามาปรึกษาเพื่อประเมินอาการผมร่วงผมบาง ก็มีปัญหาเรื่องง่ามสองข้างร่นเข้าไปมาก

ในช่วงแรกคุณจิ๊บบอกว่ายังไม่มีปัญหาหน้าผากกว้าง แต่พออายุเพิ่มขึ้น บวกกับการเทคฮอร์โมนอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริเวณไรผมด้านหน้าเริ่มเถิก หรือลึกเข้าไป โดยเฉพาะบริเวณง่ามสองข้างจนเป็นรูปตัว M ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของการร่นผมในผู้ชาย

dermaster-content-fue-review3

ตอนแรกจิ๊บยังไม่ได้ตัดสินใจปลูกผม เพราะจากที่หาข้อมูลเจอกับวิธีการรักษาหลายรูปแบบมากๆ แต่พอมาปรึกษาคุณหมอก็เห็นว่าการปลูกผมเป็นรูปแบบที่ตอบโจทย์ผมมากที่สุด

คุณหมอได้วัดดูระยะระหว่างคิ้วบริเวณกึ่งกลางตรงยอดไรผม และระหว่างคิ้วจนถึงง่ามทั้งสองข้าง มีความลึกเข้าไปเยอะมาก ก็เลยได้คุยถึงวิธีการรักษาต่างๆ เห็นตรงกันว่าการปลูกผมเป็นวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด จากนั้นคุณหมอและจิ๊บก็ได้ก็ได้ร่วมกันออกแบบแนวผมว่าจะปลูกปริมาณไหนถึงจะพอดี เหมาะสมตรงกัน จากนั้นก็ได้นัดวันเวลาเพื่อปลูกผมกันอีกครั้ง

ตอนแรกจิ๊บยังไม่ได้ตัดสินใจปลูกผม เพราะจากที่หาข้อมูลเจอกับวิธีการรักษาหลายรูปแบบมากๆ แต่พอมาปรึกษาคุณหมอก็เห็นว่าการปลูกผมเป็นรูปแบบที่ตอบโจทย์ผมมากที่สุด

คุณหมอได้วัดดูระยะระหว่างคิ้วบริเวณกึ่งกลางตรงยอดไรผม และระหว่างคิ้วจนถึงง่ามทั้งสองข้าง มีความลึกเข้าไปเยอะมาก ก็เลยได้คุยถึงวิธีการรักษาต่างๆ เห็นตรงกันว่าการปลูกผมเป็นวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด จากนั้นคุณหมอและจิ๊บก็ได้ก็ได้ร่วมกันออกแบบแนวผมว่าจะปลูกปริมาณไหนถึงจะพอดี เหมาะสมตรงกัน จากนั้นก็ได้นัดวันเวลาเพื่อปลูกผมกันอีกครั้ง

S__40583178
dermaster-content-hair-review13

คำถามที่พบบ่อย

01. ก่อนปลูกผม ที่สถาบันเพื่อความงามเเละสุขภาพ เดอมาสเตอร์ คุณจิ๊บรักษาด้วยวิธีใดมาก่อนไหมคะ ?
ก่อนปลูกผม ที่สถาบันเพื่อความงามเเละสุขภาพ เดอมาสเตอร์ จิ๊บเคยลองมาทุกรูปแบบ ทั้งการทานยา การใช้เซรั่มหยอดผม ซึ่งเซรั่มจิ๊บรู้สึกว่ามันไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง ก็เลยไปหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตแล้วลองสั่งซื้อยามาทาน ปรากฎว่าตอนกินยา ผมหลุดร่วงน้อยลง แต่ยังรู้สึกว่าไม่ค่อยตอบโจทย์ตัวเอง และทุกครั้งที่จิ๊บไปทำผม ไม่ว่าจะถ่ายแบบหรือออกรายการ ช่างทำผมก็มักจะเอาผงสีดำๆ มาปิดให้ ก็เลยคิดว่าผมเราน่าจะไปแล้ว
02. ผงสีดำๆ ที่ใช้โรยผม คืออะไร ดีหรือไม่?
คุณหมอ: สำหรับเรื่องการปกปิดด้วยผงสีดำๆ เรียกว่า Hair Shadow สำหรับปิดผมบาง แต่จะปกปิดได้ดีเฉพาะบริเวณตรงกลางด้านใน แต่ถ้าจะใช้ปิดแนวผมด้านหน้าจะค่อนข้างยาก เพราะการใช้ Hair Shadow จะเหมือนการระบายสีด้วยผง จึงไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ไม่มีเส้น คล้ายๆ เป็นการลงสีเฉยๆ ส่วนอีกวิธีคือการใช้ผงไฟเบอร์ ที่จะช่วยให้ดูเนียนขึ้น เวลาเราเหยาะลงไป ไฟฟ้าสถิตของตัวผงจะจับตัวกันและทำให้เส้นผมดูหนาขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การใช้ Hair Shadow หรือผงไฟเบอร์ ปกปิดผมบางจะไม่สวยและดูไม่เป็นธรรมชาติเท่ากับการปลูกผม
03. ก่อนปลูกผม ที่สถาบันเพื่อความงามเเละสุขภาพ เดอมาสเตอร์ คุณหมอได้ให้คำปรึกษาอะไรบ้าง ?
คุณจิ๊บ: เราได้คุยกับคุณหมอถึงสาเหตุของการผมร่วง ผมบาง เพราะจิ๊บเทคฮอร์โมนผู้ชายเป็นระยะเวลากว่า 8 ปี ในปีแรกๆ ยังไม่ค่อยเป็นอะไร แต่พอนานเข้า ตรงบริเวณง่ามผมที่เป็นรูปตัว M เริ่มลึกขึ้น แถมจากแต่ก่อนที่มีผมเส้นหนา ก็เปลี่ยนเป็นเส้นบางลง เล็กลง คุณหมอก็ถามประวัติการกินยา ก็พบว่ายาที่จิ๊บใช้มันต่อต้านกับตัวยาที่กิน ก็เลยแนะนำให้หยุด แล้วเปลี่ยนเป็นยาสำหรับหยอดบริเวณหนังศีรษะแทน
04. การเทคฮอร์โมนเพศชาย เป็นสาเหตุของการทำให้เกิดผมร่วง ผมบางใช่หรือไม่?
คุณหมอ: การเทคฮอร์โมนเพศชาย ก็เป็นสาเหตุของการผมบาง เช่นกัน เพราะเทสโทสเตอโรน (Testosterone) หรือฮอร์โมนเพศชายตัวนี้ จะไปเปลี่ยน DHT (Dihydrotestosterone) ทำให้เส้นผมมีขนาดเล็กลง เหมือนที่คุณจิ๊บบอกว่า แต่ก่อนเส้นผมใหญ่ ต่อมาเส้นผมเล็กลง บางลง หนาแน่นน้อยลงไม่เท่าเดิม เป็นเพราะ DHT ไปออกฤทธิ์ที่ไรผมด้านหน้า โดยเฉพาะบริเวณง่ามทั้งสองข้าง และบริเวณขวัญกลางศีรษะ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีตัวรับฮอร์โมนเพศชายเยอะ
05. คุณจิ๊บ ปลูกผมที่สถาบันเพื่อความงามเเละสุขภาพ เดอมาสเตอร์ ไปทั้งหมดกี่กราฟต์ ?
คุณหมอ: จากการออกแบบ Hairline และดูจากผมเดิมที่มีอยู่ใช้ไปประมาณ 1,500 กราฟต์ ในภาษาไทย กราฟต์คือกอผม โดย 1 กอผมอาจมีตั้งแต่ 1 เส้น 2 เส้น 3 เส้น หรือ 4 เส้น แต่โดยเฉลี่ยทั้งหนังศีรษะของคนเรา 1 กอผมจะมี 2-3 เส้น
06. หลังปลูกผม ที่สถาบันเพื่อความงามเเละสุขภาพ เดอมาสเตอร์ ครบ 3 สัปดาห์ ผมของคุณจิ๊บเป็นยังไงบ้าง?
คุณหมอ: ก่อนปลูกผมคุณจิ๊บมีแนวผมสองข้างค่อนข้างลึก หรือเถิกเข้าไป หมอก็ได้ประเมินและออกแบบว่าแนวผมที่สวยงามควรเป็นอย่างไร ซึ่งจะดูแนวผมอย่างเดียวไม่ได้ ที่ Dermaster เรา หมอดูสัดส่วนของใบหน้าด้วยว่าคนไข้มีใบหน้าเล็กหรือใหญ่ สัดส่วนของคิ้วไปจนถึงไรผม หรือ Upper Face ใบหน้าส่วนบนจะต้องได้สัดส่วนที่ใกล้เคียงหรือเท่ากับ Mid Face ระหว่างคิ้วจนถึงปลายจมูก และปลายจมูกถึงคาง ที่เรียกว่า Lower Face ทั้ง 3 ส่วนต้องได้อัตราส่วนที่สวยงาม เพื่อให้ได้ใบหน้าที่สมมาตร ดังนั้นการออกแบบแนวของ Hairline ใหม่ให้กับคุณจิ๊บดูว่าหลังปลูกเสร็จผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบไหน สวยงามเหมาะสมรึเปล่า จากที่ออกแบบมา บริเวณคิ้วถึงแนวผมใหม่จะได้สัดส่วนที่ชัดเจน หน้าผากจะไม่กว้าง ได้แนวผมที่เป็นลักษณะของผู้ชาย กรอบหน้าจะชัดเจนขึ้นด้วย หลังจากผ่านไป 3 สัปดาห์ ผมที่ปลูกไปเริ่มขึ้นมาเป็นแนวเห็นได้ชัด แนวผมใหม่ค่อนข้างยาวมากขึ้น หนาแน่นมากขึ้น แนวผมสวยทำให้คุณจิ๊บมีกรอบหน้าที่ชัดเจน ใบหน้าได้รูปหล่อมากๆ ครับ
07. การปลูกผม ที่สถาบันเพื่อความงามเเละสุขภาพ เดอมาสเตอร์ จะทำให้เกิดแผลเป็นไหม ใช้เวลาในการปลูกนานรึเปล่า?
คุณหมอ: การปลูกผมเป็นหัตถการที่ใช้ความละเอียดอ่อน เป็นศิลปะอย่างหนึ่งของแพทย์ผู้ผ่าตัด หมอจะต้องประเมินสาเหตุของการผมบาง และเลือกใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสม เมื่อเราเลือกการปลูกผมก็ต้องดูอีกว่าเทคนิคไหนที่เหมาะสมกับคนไข้ ซึ่งในเคสของคุณจิ๊บหมอเลือกใช้เทคนิค FUE (Follicular unit extraction) ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน คือการนำเส้นผมบางส่วนบริเวณท้ายทอย เป็นเส้นผมที่แข็งแรงและไม่โดนฮอร์โมนเพศชายทำร้าย เป็นเส้นผมที่ใหญ่ หลุดยาก มีความแข็งแรงสูง ย้ายมาปลูกบริเวณด้านหน้า จุดที่ต้องการ
08. การปลูกผม ที่สถาบันเพื่อความงามเเละสุขภาพ เดอมาสเตอร์ มีผลข้างเคียงไหม?
คุณหมอ: การปลูกผมแบบ FUE ด้านหลังจะไม่มีแผลเป็นอยู่แล้ว เพราะว่าอุปกรณ์สำหรับใช้เจาะนำกราฟต์ผมออกมาจะมีหัวที่เล็กมาก ประมาณ 0.7-0.8 มิลลิเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 วันแผลก็หาย และดูเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องเย็บแผลหรือตัดไหมให้วุ่นวาย การปลูกผมแบบ FUE เป็นหัตถการที่ทำเสร็จในวันเดียว คนที่ปลูกผมจะรู้เรื่องตลอดเพราะไม่มีการดมยาสลบ สามารถพักเข้าห้องน้ำ พักทานอาหารกลางวันได้ ระหว่างทำก็จะนอนสบายๆ ก็ไม่ต้องกังวล
09. ความรู้สึกของคุณจิ๊บ ตอนปลูกผม ที่สถาบันเพื่อความงามเเละสุขภาพ เดอมาสเตอร์เป็นอย่างไรบ้างคะ ?
คุณจิ๊บ: สบายๆ อย่างที่คุณหมอบอกเลย จิ๊บเดินทางมาถึง Dermaster ในตอนเช้าประมาณ 7-8 โมง เข้าห้องผ่าตัดเพื่อเจาะเก็บกราฟต์ผม กลางวันก็พักเบรกทานข้าว จากนั้นช่วงบ่ายก็กลับเข้ามาปลูกต่อ และเสร็จช่วงเย็นๆ ซึ่งระหว่างที่ทำก็ไม่เจ็บ เพราะมียาชาด้วย ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ผมเผลอหลับด้วยซ้ำ คุณหมอ: หลายคนเตรียมตัวมาค่อนข้างดี บางคนจะนอนมาน้อยมากในคืนวันที่ปลูก เพราะเค้ารู้ว่าต้องนอนนิ่งๆ ดังนั้นพอหมอฉีดยาชาเสร็จก็หลับสนิทเลย ตื่นอีกทีตอนพักกลางวัน พักเสร็จกลับก็มานอนต่ออีก ตื่นมาอีกทีก็ปลูกผมเสร็จกลับบ้านได้เลย
10. หลังปลูกผม ที่สถาบันเพื่อความงามเเละสุขภาพ เดอมาสเตอร์ มีวิธีดูเเลตัวเองยังไงบ้าง?
คุณจิ๊บ: คุณหมอให้คำแนะนำว่าอย่าออกแรง หรือออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 2-3 อาทิตย์แรก งดออกกำลังกายไปก่อน แต่สามารถทำงานนั่งโต๊ะและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ คุณหมอ: สมมติว่าเราปลูกผมวันนี้ ควรหยุดพัก 24-48 ชม. หลังจากนั้นเปิดผ้าพันแผลก็เริ่มสระผมได้ ทำงาน ทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ยกเว้นเวลาเหงื่อออกเยอะๆ ช่วง 2 อาทิตแรก ไม่ควรไปจับหรือไปดึง แกะ หรือเกาส่วนที่เราปลูกผม ควรปล่อยให้เค้าขึ้นตามธรรมชาติ คุณจิ๊บ: เวลานอนก็จะมีหมอนรูปตัวยู เพราะห้ามนอนตะแคง นอนคว่ำ เพราะกลัวว่าจะโดนกราฟต์ แต่จิ๊บก็ไม่ได้รำคาญ นอนได้ตามปกติ แค่หมอนจะช่วยล็อคคอไม่ให้เราตะแคงหรือนอนผิดท่าเฉยๆ
11. หลังปลูกผม ที่สถาบันเพื่อความงามเเละสุขภาพ เดอมาสเตอร์ ต้องทานยาเพิ่มไหม?
คุณหมอ: ขึ้นกับสาเหตุที่เรามาปลูกผม ถ้าปลูกบนแผลเป็น หรือบนแนวผมที่ต้องการปรับแต่งแนวผม เช่น จากเพศหญิงอยากให้ได้แนวผมของเพศชาย หรือเป็นผู้ชายแล้วอยากให้ได้แนวผมแบบผู้หญิง ในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ยาหยอดหรือกินยาต่อเนื่อง แต่ถ้าปลูกผมด้วยสาเหตุผมบางจากฮอร์โมน ผมบางจากพันธุกรรม (Androgenetic alopecia) แนะนำว่าให้รักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากร่างกายมีฮอร์โมนเพศชายเยอะ ก็จะไปออกฤทธิ์บริเวณเส้นผมเยอะ ทำให้ผมที่ไม่ได้ปลูกมีขนาดเส้นที่เล็กลง หนาแน่นน้อยลงได้ หรือหลุดร่วงได้เพราะเส้นผมไม่แข็งแรง ดังนั้นแนะนำให้รักษาต่อเนื่อง เพื่อให้แนวผมที่เราปลูกและผมเดิมจะได้คงอยู่ด้วยกันได้หนาแน่นเท่าเดิม

คุณจิ๊บ: จริงๆ จิ๊บแนะนำว่าสำหรับคนที่มีปัญหา ควรเริ่มต้นด้วยการปรึกษาคุณหมอก่อน เพราะจิ๊บวิเคราะห์เองหรือหาข้อมูลเอง ก็ไม่ได้คำตอบที่ถูกต้องเสมอไป ลองมาคุยกับคุณหมอ หาแนวทางกับคุณหมอก่อนคิดว่าน่าจะดีที่สุด

คุณหมอ: สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงผมบางสามารถเข้ามาปรึกษาได้ไม่ว่าจะเป็นโรคเส้นผม แม้ว่าปัจจุบันอาจจะยังไม่บางมาก ก็สามารถใช้เทคนิคอื่นในการรักษาได้ ที่ Dermaster หมอจะเลือกเทคนิควิธีที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด

ณ ปัจจุบันนี้ มีมลภาวะ และสิ่งแวดล้อมไม่ดี หลายๆ คนเริ่มบอกว่าผมร่วงมากขึ้น ผมบาง ไรผมเริ่มร่น หลายคนมีปัญหาแล้วแต่ยังไม่รู้วิธีการรักษาที่ชัดเจน อาจจะซื้ออะไรมาหยอดใช้ไป 2-3 เดือนก็ไม่เห็นผล เพราะยังรักษาไม่ถูกจุด

หมอแนะนำว่าให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อดูสาเหตุที่ถูกต้อง เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมและได้ผล สำหรับแต่ละบุคคล หมอยินดีให้คำปรึกษาทุกท่าน แม้ว่าปัจจุบันผมของคุณอาจจะยังไม่บางมาก ก็สามารถใช้เทคนิคอื่นในการรักษาได้ ที่ Dermaster หมอจะเลือกเทคนิควิธีที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด

ตอบคำถามโดย
นพ.คณวัฒน์ กาญจนพิบูลย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหนังศีรษะและเส้นผม Dermaster
คุณจิ๊บ ณภัค มหาอุดมพร The Face Men Thailand ซีซั่น 3

ติดตามข้อมูลข่าวสารและโปรโมชั่นของ DERMASTER ได้ทุกช่องทาง

📌 Facebook  : @dermasterthailand คลิ๊ก

📌 Instagram : dermaster_ คลิ๊ก

📌 Line Official : @dermaster คลิ๊ก

📌 ลงทะเบียนปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ : คลิ๊ก

แชร์ให้เพื่อน :

Add Line@

กำลังมองหาคำแนะนำ?