• 02 714 4471
  • 342 Ekamai Rd, Bangkok 10110
  • Mon - Sun: 09:00 - 20:00
  • 02 246 0042
  • 44/1 Asoke-Dindaeng Rd, Bangkok 10310
  • Mon-Sun: 11:00 - 19:00
  • 088 152 4444
  • 16/7 North Sathorn Rd, Silom, Bangkok 10500
  • Mon-Sun: 11:00 - 20:00
  • 02 253 9269
  • 1025 Ploenchit Rd, Lumpini, Bangkok 10330
  • Mon-Sun: 11:00 - 20:00
  • 02 539 4888
  • 1416 ซอย ลาดพร้าว 87 แขวง คลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
  • Mon-Sun: 11:00 - 20:00

ร้อยไหมอิตาลี Definisse ยกกระชับใบหน้า

ร้อยไหมอิตาลี Definisse

เจ็บน้อย ยกนาน ไม่ต้องผ่าตัด

ภาพปกของ Dermaster Thailand แนะนำร้อยไหมอิตาลี Definisse

คุณกำลังเผชิญปัญหาเหล่านี้อยู่หรือไม่ ?

คิ้วตก หางตาหย่อน
แก้มหย่อนคล้อย มีร่องน้ำหมาก
มุมปากตก มุมปากไม่เท่ากัน
กรอบหน้าหย่อนคล้อย เห็นเหนียงชัดเจน
ผิวไม่ฟู ไม่เต่งตึง

แนะนำร้อยไหมอิตาลี - Definisse-Italian Thread Lift

ร้อยไหมอิตาลี คือ การร้อยไหมระดับพรีเมี่ยมที่ออกมาเพื่อยกกระชับใบหน้า ซึ่งกระแสการร้อยไหมนับว่าเป็นที่รู้จักกันในแวดวงความงามมาอย่างยาวนาน แต่ส่วนใหญ่จะใช้ไหมที่มาจากเกาหลี สำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำนวัตกรรมใหม่ของการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เจ็บน้อย แบบเห็นผลทันทีหลังทำกันค่ะ

Dermaster Thailand แนะนำร้อยไหมอิตาลี Definisse ยกกระชับใบหน้า ผลลัพธ์ยกได้นานกว่า

การร้อยไหม (Thread lift) คือ

การร้อยไหม (Thread Lift) คือ การใช้ไหมที่มีคุณสมบัติละลายได้เองตามธรรมชาติเพื่อร้อยไหมเข้าไปใต้ผิวของใบหน้า ซึ่งเส้นไหมจะออกแบบเป็นตะขอขนาดเล็กๆให้ยึดติดกับโครงสร้างใต้ผิวหน้าเพื่อยกกระชับผิวหน้าไปที่ตำแหน่งเหมาะสม เส้นไหมเองช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน และกรดไฮยาลูรอนิก ผิวจึงตึงกระชับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังร้อยไหม

DISCLAIMER: There’s no guarantee of specific results and that the results can vary (ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล)

ไหมร้อยหน้า (Thread lift) มีกี่ประเภท?

การร้อยไหมที่เราคุ้นเคยกันจะแบ่งกันเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  1. ร้อยไหม (แบบไหมละลาย) คือ ไหมที่สลายได้ตามธรรมชาติ 100% ทำจากวัสดุ PDO, PLLA และ PCL ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และมีความยืดหยุ่น และความแข็งแรงแตกต่างกันออกไป และร้อยไหมอิตาลี Definisse ก็อยู่ในประเภทนี้ด้วยค่ะ
  2. ร้อยไหม (แบบไหมไม่ละลาย) คือ ไหมที่ทำจากวัสดุที่เป็นพลาสติก ทองคำ หรือ โลหะ ซึ่งถ้าเป็นแบบพลาสติกจะเหมาะกับการใช้เย็บแผล สำหรับแบบที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ก็เคยเป็นที่นิยมมานาน แต่มีความเสี่ยงหลายอย่างเช่น ทองจะไม่ทนความร้อน และมีปัญหากับการทำ CT Scan และอาจก่อให้เกิดการแพ้ของผิวหนังได้

ร้อยไหมกี่วันเข้าที่?

การร้อยไหมโดยทั่วไปแล้ว หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และไม่มีภาวะแทรกซ้อนของคนไข้ ร้อยไหมเข้าที่ได้ภายใน 4-6 สัปดาห์ แต่สำหรับการร้อยไหมอิตาลี (Definisse Italian Threads Lift) นั้นสามารถเข้าได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ เหตุผลมาจากปัจจัยของการทำที่เจ็บน้อย แผลเล็ก และเทคนิคแพทย์ค่ะ

Dermaster Thailand ร้อยไหมอิตาลี Definisse Italian Thread Lift

การร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) คืออะไร?

การร้อยไหมอิตาลี คือ การใช้ไหมชนิดพิเศษของแบรนด์พรีเมียม Definisse ซึ่งเป็นไหมที่ได้รับการรับรองจาก อย.​ไทย เพียงแบรนด์เดียว นำเข้าตรงจากอิตาลี ทำให้มีความปลอดภัยต่อคนไข้ และมีคุณภาพในผลิตสูง

การร้อยไหมอิตาลีที่ Dermaster จะใช้รุ่น Definisse Double Needle Threads ซึ่งโครงสร้างไหมจะเป็นแบบเงี่ยงไหมสองทิศทางวิ่งเข้าหากัน (Bidirectional and Convergent Barbed Threads) และเน้นการใช้งานสำหรับร้อยบริเวณหน้า และลำคอ

ทำไมต้องร้อยไหมอิตาลีด้วยแบรนด์ Definisse?

ไหมอิตาลีที่ Dermaster นำมาใช้นั้นเป็นของบริษัท เอ. เมนารินี (A. Menarini) บริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก และเก่าแก่ที่สุดจากประเทศอิตาลี (Made in Italy) เปิดตัวในปี 2561 ในไทยภายใต้บริษัทย่อยชื่อว่า ReLife และไหมอิตาลีแบรนด์ Definisse เป็นผลิตภัณฑ์แรก โดยในปัจจุบันเป็นไหมอิตาลีรายแรกและรายเดียวที่ได้รับการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในไทยเรานี่เองค่ะ

Dermaster Thailand แนะนำร้อยไหมอิตาลี Definisse วิธีการยกกระชับใบหน้าใน 2 ขั้นตอน

การร้อยไหมอิตาลีรุ่น Definisse Double Needle Threads มีเส้นไหมกี่แบบ?

ไหมอิตาลีนั้นจะมี 2 ขนาด คือ ขนาด 12 cm และ ขนาด 23 cm ซึ่งการใช้งานจะแบ่งเป็นบริเวณที่ใช้ร้อยไหม ดังนี้:

  • ไหมขนาดความยาว 12 cm เหมาะสำหรับการใช้ร้อยไหมบริเวณหน้า เช่น ใช้ยกคิ้ว ยกหางตา ยกกระชับบริเวณขากรรไกร ยกกรอบหน้า และร่องน้ำหมาก
  • ไหมขนาดความยาว 23 cm เหมาะสำหรับการใช้ร้อยไหมบริเวณคอ และกรอบหน้า

การร้อยไหมอิตาลี Definisse Double Need Threads นั้นใช้ไหมเข็มปลายแหลมสองด้าน ขนาดเข็มเบอร์ 21 G และจำนวนเส้นไหมที่ต้องใช้นั้นโดยส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความหย่อนคล้อยของชั้นผิวหนังของแต่ละบุคคล แต่โดยพื้นฐานแล้วจะเริ่มต้นใช้แค่เพียงข้างละ 1 เส้นเท่านั้น หรือ อาจจะใช้ในจำนวนที่น้อยมากๆเมื่อเทียบกับการร้อยไหมประเภทอื่นๆ

ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับการแพทย์ประเมินของแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปีของ Dermaster ในการออกแบบรูปหน้าและปัญหาของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันออกไปค่ะ

เทคนิค ร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) Double Need Threads ดีไหม?

เทคนิค ร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) Double Need Threads

เทคนิคเข็มเย็บคู่หรือ Double Needle Technique คือ เทคนิคการใช้เส้นไหมในการยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด เช่น การร้อยไหม PDO Thread Lift โดยเทคนิคนี้ใช้เข็มเย็บสองเข็มในการแทรกเส้นไหมเข้าสู่ผิวหนัง โดยใช้เข็มหนึ่งในการแทรกเส้นไหมเข้าสู่จุดเข้า และเข็มอีกตัวใช้ในการนำเส้นไหมไปยังจุดออก

การใช้เข็มเย็บคู่ใน Double Needle Technique นี้มีประโยชน์หลายประการ อย่างแรกคือช่วยให้การแทรกเส้นไหมเข้าสู่ผิวหนังมีความแม่นยำมากขึ้น ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้การใช้เข็มเย็บคู่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการที่เส้นไหมอาจหักหรือเลื่อนไปอย่างไม่พึงประสงค์ ที่อาจเป็นสาเหตุให้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ

เทคนิค Definisse 12 cm double needle threads ที่ใช้ร่วมกับเทคนิค Jawline Reshaping (JR) ช่วยทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนโครงร่างของเส้นคางเป็นแบบที่เราต้องการได้ โดยทำการยกกระชับบริเวณหน้าล่างโดยไม่ต้องผ่าตัด

เทคนิคนี้สามารถทำได้โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ระดับ Basic หรือ Advanced ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ที่ทำการรักษา

  1. งดใช้อาหารเสริม เช่น วิตามินกลุ่ม C E และกลุ่มยาเช่น พาราเซมอล และยาสลายลิ่มเลือด
  2. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 วันก่อนทำ
  3. ในกรณีที่ต้องทำฟัน ควรวางแผนกับทันตแพทย์ก่อน เพราะหลังร้อยไหมจะต้องงดการอ้าปากเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3-4 สัปดาห์
  4. งดทำทรีทเม้นบริเวณที่จะร้อยไหมอิตาลีจากการใช้เครื่องยกกระชับใบหน้าทุกรูปแบบที่ต้องการการพักฟื้นและการฟื้นฟูคอลลาเจน เช่น 
    1. เครื่องอัลต้าฟอร์เมอร์ Ultraformer MPT
    2. เครื่องอัลเทอร่า Ulthera
    3. เครื่อง Thermage FLX หรือ Thermage CPT

ทั้งนี้ คนไข้สามารถปรึกษาแพทย์ และวางแผนยกกระชับใบหน้าในวันเดียวกันที่ Dermaster ก่อนร้อยไหมอิตาลีได้ค่ะ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์อีกครั้งค่ะ (คลิกเพื่อดูโปรโมชั่น)

  1. หลังร้อยไหมอิตาลี อาจเกิดอาการปวด หรือ บวมได้ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลค่ะ
  2. งดดื่มแอลกอฮอล์เพื่อช่วยสมานแผลได้ไวขึ้น หลังร้อยไหมประมาน 7 – 14 วันค่ะ 
  3. งดการยกกระชับใบหน้า การทำทรีทเม้นหน้า การใช้ความร้อนที่ใบหน้า เช่น การอบซาวน่า การล้างหน้าด้วยน้ำร้อน และการทำเลเซอร์ประมาน 3-4 สัปดาห์ค่ะ
  4. ถ้ารู้สึกว่าตึงหน้า ความรู้สึกนี้จะดีขึ้นใน 2-3 วันได้ค่ะ

ร้อยไหมอิตาลีรีวิว

DISCLAIMER: There’s no guarantee of specific results and that the results can vary (ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล)

ร้อยไหมอิตาลี Definisse (Italian Thread lift) บวมกี่วัน?

โดยพื้นฐาน ร้อยไหมอิตาลี จะบวมประมาน 3-4 วันค่ะ หากผ่านไป 4 วันแล้ว อาการจะไม่ทุเลาลง ให้แนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ Dermaster หรือ แพทย์ได้ตลอดเวลาค่ะ ช่วงเวลานี้อาการบวมจะชัดเจนมากค่ะ หลังจากนั้นจะใช้เวลาประมาน 7-14 วันจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้แผลสมานอาการบวมจะยุบลงชัดเจน และไหมยึดติดได้เข้าที่มากขึ้น แนะนำให้คนไข้ปฏิบัติตามข้อแนะนำข้างต้นตลอดการรักษาค่ะ

ร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) แตกต่างกับการร้อยไหมแบบอื่นๆอย่างไร?

  • ไหมอิตาลี จะมีลักษณะเป็นเงี่ยงสองหัวหันวิ่งเข้าหากัน มีคุณสมบัติยึดเกาะได้ดีเยี่ยมทำให้ผลลัพธ์ยกกระชับใบหน้าของเราสามารถอยู่ได้นานถึง 15 เดือน
  • ไหมอิตาลี ผลิตด้วยวัสดุที่ปิดจุดอ่อนของไหมแบบอื่นๆ คือ จะมีความแข็งแรงกว่า และ ยืดหยุ่นกว่า
  • ไหมอิตาลี มีคุณสมบัติในการละลายได้เองตามธรรมชาติ โดยจะสลายได้หมดเองทั้งหมด 100% ภายในระยะเวลาเพียง 6-8 เดือน
  • ไหมอิตาลี มีเข็มอยู่ที่แต่ละด้านของปลายไหม ทำให้สามารถร้อยตามแนวทิศทางที่แพทย์ต้องการอย่างสะดวกมาก ทำหัตถการเสร็จเร็วขึ้น
  • ไหมอิตาลี ถูกออกแบบมาให้ใช้เส้นไหมเพียงข้างละ 1 เส้น เมื่อเทียบกับการร้อยไหมแบบอื่นๆซึ่งจะใช้ไหมหลายสิบเส้น ทำให้เจ็บน้อย และไม่ต้องพักฟื้นนาน
Dermaster Thailand แนะนำร้อยไหมอิตาลี Definisse ประโยชน์ของการยกกระชับใบหน้าใน 2 ขั้นตอน

ร้อยไหมอิตาลีต่างจากไหมมินท์ (MINT) อย่างไร?

เวลาเราสอบถามการร้อยไหมในท้องตลาดเรามักเจอไหมประเภท “ไหมมินท์” หรือ คำว่า “MINT” ซึ่งไม่ได้เกี่ยวโยงกับกลิ่นมินท์ที่เราเข้าใจกันค่ะ ตัวย่อ “MINT” ย่อมาจาก Minimal Invasive Non Surgical Thread คือ การร้อยไหมยกกระชับใบหน้า แบบไม่ต้องผ่าตัดนั่นเองค่ะ ไหมมินท์นี้เป็นชื่อของแบรนด์วัสดุไหมประเภท PDO นำเข้าจากเกาหลีค่ะ สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติเช่นกัน และได้รับรองจากอย.ไทยเหมือนกับ ไหมอิตาลี Definisse

สำหรับความแตกต่างก็จะขึ้นอยู่กับการใช้งานของเส้นไหมแบบ PDO ซึ่งมีคุณสมบัติเปราะบางกว่า การร้อยไหมอิตาลี (Definisse) และไม่ได้ยืดหยุ่นมากนัก หากบริเวณที่จะทำหัตถการนั้นมีไขมันมาก หรือ มีความหย่อนคล้อยสูง ไหมแบบ PDO นี้ก็อาจจะไม่เหมาะได้ค่ะ เพราะต้องใช้แรงดึงค่อนข้างสูง

นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิตกับไหมประเภท PDO (จากเกาหลี) นั้นค่อนข้างจะต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในการแสดงอารมณ์ผ่านทางใบหน้าค่ะ เช่น การหัวเราะ การหาวขณะที่ง่วงนอน การอ้าปากกว้าง การขยับใบหน้าที่มากไป จะเสี่ยงทำให้ไหมขาดง่ายทันที และเสี่ยงการติดเชื้อได้

อย่างไรก็ตามการร้อยไหมทุกรูปแบบควรได้รับการแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ในการร้อยไหม และ ได้รับการรับรองจากแพทยสภาเพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง

ทำไมต้องร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) ที่ Dermaster?

  • ให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี ผ่านการรับรองจากแพทยสภา และเป็นสมาชิกบอร์ดของสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
  •  Dermaster มีรางวัลการันตีด้านการออกแบบใบหน้าเฉพาะบุคคลจากสถาบันชั้นนำระดับโลกจึงทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด
  • มีที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านร้อยไหมอิตาลีที่ดูแลแบบ 1:1 พร้อมห้อง Private VIP เป็นส่วนตัวตลอดการให้บริการ

ความเสี่ยงของการร้อยไหมอิตาลี Definisse

  • การร้อยไหมควรใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการร้อยไหม และเชี่ยวชาญในการออกแบบโครงสร้างใบหน้า (Facial Design Expertise) จะช่วยลดความเสี่ยงการวางแนวร้อยไหมที่ไม่ตรงจุดของการดึงกล้ามเนื้อที่ใบหน้า
  • การเลือกใช้วัสดุไหมที่มีคุณภาพสูงเหมาะสมกับปัญหาเฉพาะบุคคล และเหมาะสมกับผิวหน้าของคนไข้ต้องใช้แพทย์ที่มีประสบการณ์สูง จะช่วยลดความเสี่ยงไหมไม่ได้คุณภาพ การติดเชื้อ และ ผลลัพธ์ของการร้อยไหมที่อาจจะไม่ได้ผลเต็มที่
icon-1

Effect : กระชับทันทีหลังทำ

icon-2

How long : 45-60 นาที

icon-3

How often : 1 ครั้งก็เห็นผล (ขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้า)

icon-4

Down time : ไม่ต้องพักฟื้น

คำถามที่พบบ่อย

01. ร้อยไหมอิตาลียกกระชับหน้า ที่ Dermaster ราคาเท่าไหร่?
ร้อยไหมอิตาลี เริ่มต้น 2 เส้น ราคา 55,000 บาท (ขนาด 12 cm) และร้อยไหมอิตาลี 2 เส้น ราคา 65,000 บาท (ขนาด 23 cm)
02. การร้อยไหมอิตาลีเหมาะสำหรับใครบ้าง?
ผลลัพธ์จากหลังการทำ CoolSculpting Elite จะขึ้นอยู่แต่ละบุคคลโดยทั่วไปใช้เวลา 3-4 สัปดาห์ จะเห็นว่าสัดส่วนเล็กลงและจะเห็นผลลัพธ์แบบเต็มที่ ภายใน 3 เดือน ถ้าอยากให้สัดส่วนลดลงอีกสามารถกลับมาทำได้ ทุกๆ 2 สัปดาห์
03. การร้อยไหมอิตาลีไม่เหมาะกับใคร?
การร้อยไหมโดยทั่วไป หรือ ร้อยไหมอิตาลีนั้นจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบริเวณใบหน้าเยอะมากจะทำให้แรงดึงทำได้ไม่เต็มที่มาก หรือ ผู้ที่มีใบหน้าตอบไม่มีเนื้อ
04. การร้อยไหมอิตาลีสามารถทำส่วนไหนได้บ้าง?
ร้อยไหมอิตาลีสามารถทำได้บริเวณหน้า เช่น ใช้ยกคิ้ว ยกหางตา ยกกระชับบริเวณขากรรไกร ยกกรอบหน้า และร่องน้ำหมาก และบริเวณลำคอ
05. ก่อนร้อยไหมอิตาลีต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
- งดใช้อาหารเสริม เช่น วิตามินกลุ่ม C E และกลุ่มยาเช่น พาราเซมอล และยาสลายลิ่มเลือด - งดทำทรีทเม้นบริเวณใบหน้าที่ต้องใช้การพักฟื้นใบหน้า เช่น กลุ่มเครื่องยกกระชับใบหน้าอย่าง Ultraformer / Ulthera / Thermage FLX ผู้ที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ผู้ที่ติดอุปกรณ์ใด ๆ ในร่างกาย อาทิ เครื่องกระตุ้นหัวใจ ผู้ป่วยที่เพิ่งผ่าตัดในบริเวณที่จะทำการรักษา
06. ระหว่างร้อยไหมอิตาลีเจ็บไหม?
ไม่เจ็บค่ะ ทางคลินิกมียาชาเตรียมไว้ให้ พร้อมแพทย์ที่มีเทคนิคพิเศษทำให้อ่อนโยนกับใบหน้ามากๆค่ะ
07. หลังร้อยไหมอิตาลีต้องพักฟื้นกี่วัน?
ไม่ต้องนอนพักฟื้นค่ะ เพียงแต่จะให้งดแต่งหน้าในบริเวณที่ร้อยไหมเสร็จประมาน 24 ชั่วโมงเพื่อให้แผลปิดสนิท และงดนวดหน้า หรือ ใช้เครื่องนวดหน้าด้วย นอกจากนี้แนะนำให้งดสัมผัสหน้าตามเวลาที่แนะนำไปข้างค่ะ
08. หลังร้อยไหมอิตาลี ผิวหน้าจะเป็นอย่างไร?
หลังร้อยไหมอิตาลี ผิวหน้าจะมีรอยบุ๋มบางจนกว่าสภาพผิวหน้าจะปรับตัวได้ ซึ่งใช้เวลาประมาน 5-7 วัน
09. หลังร้อยไหมอิตาลี ไหมขาดทำอย่างไร?
หลังการร้อยไหมอิตาลี แพทย์จะแนะนำให้คนไข้หลีกเลี่ยงการขยับของกล้ามเนื้อบริเวณที่ร้อยไหม หากคนไข้แสดงความรู้สึกผ่านทางใบหน้า หรือ ขยับบริเวณลำคอมากเกินไป จะทำให้เสี่ยงไหมขาด และแนะนำให้เร่งติดต่อนัดหมายเพื่อพบแพทย์โดยเร็วค่ะ
10. ร้อยไหมอิตาลี ที่ไหนดี?
การร้อยไหมอิตาลี ควรเลือกสถานศัลยกรรมที่ได้มาตรฐาน และมีแพทย์ที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภา และเป็นสมาชิกบอร์ดของสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย พร้อมประสบการณ์ในการร้อยไหมที่ยาวนาน หากทำโดยอาจารย์แพทย์จะยิ่งปลอดภัยมากๆค่ะ

ขั้นตอนในการรักษา

เรามีแพทย์และนักฟิสิกส์ที่ผ่านการรับรองอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้การวินิจฉัยตามความต้องการและบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความงาม
01
Gradation Image
ส่งคำร้องขอ
สามารถส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพได้ที่แผนกต้อนรับ
02
Gradation Image
ตรวจสุขภาพ
ทำการตรวจสอบสุขภาพของลูกค้าอย่างละเอียด
03
Gradation Image
ปรึกษาทีมแพทย์
จากผลการตรวจร่างกาย เราจะให้คำปรึกษาในการดำเนินการที่จำเป็น
04
Gradation Image
แผนการรักษา
ผู้ป่วยจะได้รับแผนการรักษาอย่างละเอียด