ร้อยไหมอิตาลี Definisse
เจ็บน้อย ยกนาน ไม่ต้องผ่าตัด
คุณกำลังเผชิญปัญหาเหล่านี้อยู่หรือไม่ ?
คิ้วตก หางตาหย่อน
แก้มหย่อนคล้อย มีร่องน้ำหมาก
มุมปากตก มุมปากไม่เท่ากัน
กรอบหน้าหย่อนคล้อย เห็นเหนียงชัดเจน
ผิวไม่ฟู ไม่เต่งตึง
แนะนำร้อยไหมอิตาลี - Definisse-Italian Thread Lift
ร้อยไหมอิตาลี คือ การร้อยไหมระดับพรีเมี่ยมที่ออกมาเพื่อยกกระชับใบหน้า ซึ่งกระแสการร้อยไหมนับว่าเป็นที่รู้จักกันในแวดวงความงามมาอย่างยาวนาน แต่ส่วนใหญ่จะใช้ไหมที่มาจากเกาหลี สำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำนวัตกรรมใหม่ของการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เจ็บน้อย แบบเห็นผลทันทีหลังทำกันค่ะ
การร้อยไหม (Thread lift) คือ
การร้อยไหม (Thread Lift) คือ การใช้ไหมที่มีคุณสมบัติละลายได้เองตามธรรมชาติเพื่อร้อยไหมเข้าไปใต้ผิวของใบหน้า ซึ่งเส้นไหมจะออกแบบเป็นตะขอขนาดเล็กๆให้ยึดติดกับโครงสร้างใต้ผิวหน้าเพื่อยกกระชับผิวหน้าไปที่ตำแหน่งเหมาะสม เส้นไหมเองช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน และกรดไฮยาลูรอนิก ผิวจึงตึงกระชับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังร้อยไหม
ไหมร้อยหน้า (Thread lift) มีกี่ประเภท?
การร้อยไหมที่เราคุ้นเคยกันจะแบ่งกันเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- ร้อยไหม (แบบไหมละลาย) คือ ไหมที่สลายได้ตามธรรมชาติ 100% ทำจากวัสดุ PDO, PLLA และ PCL ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และมีความยืดหยุ่น และความแข็งแรงแตกต่างกันออกไป และร้อยไหมอิตาลี Definisse ก็อยู่ในประเภทนี้ด้วยค่ะ
- ร้อยไหม (แบบไหมไม่ละลาย) คือ ไหมที่ทำจากวัสดุที่เป็นพลาสติก ทองคำ หรือ โลหะ ซึ่งถ้าเป็นแบบพลาสติกจะเหมาะกับการใช้เย็บแผล สำหรับแบบที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ก็เคยเป็นที่นิยมมานาน แต่มีความเสี่ยงหลายอย่างเช่น ทองจะไม่ทนความร้อน และมีปัญหากับการทำ CT Scan และอาจก่อให้เกิดการแพ้ของผิวหนังได้
ร้อยไหมกี่วันเข้าที่?
การร้อยไหมโดยทั่วไปแล้ว หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และไม่มีภาวะแทรกซ้อนของคนไข้ ร้อยไหมเข้าที่ได้ภายใน 4-6 สัปดาห์ แต่สำหรับการร้อยไหมอิตาลี (Definisse Italian Threads Lift) นั้นสามารถเข้าได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ เหตุผลมาจากปัจจัยของการทำที่เจ็บน้อย แผลเล็ก และเทคนิคแพทย์ค่ะ
การร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) คืออะไร?
การร้อยไหมอิตาลี คือ การใช้ไหมชนิดพิเศษของแบรนด์พรีเมียม Definisse ซึ่งเป็นไหมที่ได้รับการรับรองจาก อย.ไทย เพียงแบรนด์เดียว นำเข้าตรงจากอิตาลี ทำให้มีความปลอดภัยต่อคนไข้ และมีคุณภาพในผลิตสูง
การร้อยไหมอิตาลีที่ Dermaster จะใช้รุ่น Definisse Double Needle Threads ซึ่งโครงสร้างไหมจะเป็นแบบเงี่ยงไหมสองทิศทางวิ่งเข้าหากัน (Bidirectional and Convergent Barbed Threads) และเน้นการใช้งานสำหรับร้อยบริเวณหน้า และลำคอ
ทำไมต้องร้อยไหมอิตาลีด้วยแบรนด์ Definisse?
ไหมอิตาลีที่ Dermaster นำมาใช้นั้นเป็นของบริษัท เอ. เมนารินี (A. Menarini) บริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก และเก่าแก่ที่สุดจากประเทศอิตาลี (Made in Italy) เปิดตัวในปี 2561 ในไทยภายใต้บริษัทย่อยชื่อว่า ReLife และไหมอิตาลีแบรนด์ Definisse เป็นผลิตภัณฑ์แรก โดยในปัจจุบันเป็นไหมอิตาลีรายแรกและรายเดียวที่ได้รับการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในไทยเรานี่เองค่ะ
การร้อยไหมอิตาลีรุ่น Definisse Double Needle Threads มีเส้นไหมกี่แบบ?
ไหมอิตาลีนั้นจะมี 2 ขนาด คือ ขนาด 12 cm และ ขนาด 23 cm ซึ่งการใช้งานจะแบ่งเป็นบริเวณที่ใช้ร้อยไหม ดังนี้:
- ไหมขนาดความยาว 12 cm เหมาะสำหรับการใช้ร้อยไหมบริเวณหน้า เช่น ใช้ยกคิ้ว ยกหางตา ยกกระชับบริเวณขากรรไกร ยกกรอบหน้า และร่องน้ำหมาก
- ไหมขนาดความยาว 23 cm เหมาะสำหรับการใช้ร้อยไหมบริเวณคอ และกรอบหน้า
การร้อยไหมอิตาลี Definisse Double Need Threads นั้นใช้ไหมเข็มปลายแหลมสองด้าน ขนาดเข็มเบอร์ 21 G และจำนวนเส้นไหมที่ต้องใช้นั้นโดยส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความหย่อนคล้อยของชั้นผิวหนังของแต่ละบุคคล แต่โดยพื้นฐานแล้วจะเริ่มต้นใช้แค่เพียงข้างละ 1 เส้นเท่านั้น หรือ อาจจะใช้ในจำนวนที่น้อยมากๆเมื่อเทียบกับการร้อยไหมประเภทอื่นๆ
ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับการแพทย์ประเมินของแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปีของ Dermaster ในการออกแบบรูปหน้าและปัญหาของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันออกไปค่ะ
เทคนิค ร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) Double Need Threads ดีไหม?
เทคนิค ร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) Double Need Threads
เทคนิคเข็มเย็บคู่หรือ Double Needle Technique คือ เทคนิคการใช้เส้นไหมในการยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด เช่น การร้อยไหม PDO Thread Lift โดยเทคนิคนี้ใช้เข็มเย็บสองเข็มในการแทรกเส้นไหมเข้าสู่ผิวหนัง โดยใช้เข็มหนึ่งในการแทรกเส้นไหมเข้าสู่จุดเข้า และเข็มอีกตัวใช้ในการนำเส้นไหมไปยังจุดออก
การใช้เข็มเย็บคู่ใน Double Needle Technique นี้มีประโยชน์หลายประการ อย่างแรกคือช่วยให้การแทรกเส้นไหมเข้าสู่ผิวหนังมีความแม่นยำมากขึ้น ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้การใช้เข็มเย็บคู่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการที่เส้นไหมอาจหักหรือเลื่อนไปอย่างไม่พึงประสงค์ ที่อาจเป็นสาเหตุให้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ
เทคนิค Definisse 12 cm double needle threads ที่ใช้ร่วมกับเทคนิค Jawline Reshaping (JR) ช่วยทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนโครงร่างของเส้นคางเป็นแบบที่เราต้องการได้ โดยทำการยกกระชับบริเวณหน้าล่างโดยไม่ต้องผ่าตัด
เทคนิคนี้สามารถทำได้โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ระดับ Basic หรือ Advanced ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ที่ทำการรักษา
- งดใช้อาหารเสริม เช่น วิตามินกลุ่ม C E และกลุ่มยาเช่น พาราเซมอล และยาสลายลิ่มเลือด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 วันก่อนทำ
- ในกรณีที่ต้องทำฟัน ควรวางแผนกับทันตแพทย์ก่อน เพราะหลังร้อยไหมจะต้องงดการอ้าปากเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3-4 สัปดาห์
- งดทำทรีทเม้นบริเวณที่จะร้อยไหมอิตาลีจากการใช้เครื่องยกกระชับใบหน้าทุกรูปแบบที่ต้องการการพักฟื้นและการฟื้นฟูคอลลาเจน เช่น
- เครื่องอัลต้าฟอร์เมอร์ Ultraformer MPT
- เครื่องอัลเทอร่า Ulthera
- เครื่อง Thermage FLX หรือ Thermage CPT
ทั้งนี้ คนไข้สามารถปรึกษาแพทย์ และวางแผนยกกระชับใบหน้าในวันเดียวกันที่ Dermaster ก่อนร้อยไหมอิตาลีได้ค่ะ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์อีกครั้งค่ะ (คลิกเพื่อดูโปรโมชั่น)
- หลังร้อยไหมอิตาลี อาจเกิดอาการปวด หรือ บวมได้ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลค่ะ
- งดดื่มแอลกอฮอล์เพื่อช่วยสมานแผลได้ไวขึ้น หลังร้อยไหมประมาน 7 – 14 วันค่ะ
- งดการยกกระชับใบหน้า การทำทรีทเม้นหน้า การใช้ความร้อนที่ใบหน้า เช่น การอบซาวน่า การล้างหน้าด้วยน้ำร้อน และการทำเลเซอร์ประมาน 3-4 สัปดาห์ค่ะ
- ถ้ารู้สึกว่าตึงหน้า ความรู้สึกนี้จะดีขึ้นใน 2-3 วันได้ค่ะ
ร้อยไหมอิตาลีรีวิว
ร้อยไหมอิตาลี Definisse (Italian Thread lift) บวมกี่วัน?
โดยพื้นฐาน ร้อยไหมอิตาลี จะบวมประมาน 3-4 วันค่ะ หากผ่านไป 4 วันแล้ว อาการจะไม่ทุเลาลง ให้แนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ Dermaster หรือ แพทย์ได้ตลอดเวลาค่ะ ช่วงเวลานี้อาการบวมจะชัดเจนมากค่ะ หลังจากนั้นจะใช้เวลาประมาน 7-14 วันจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้แผลสมานอาการบวมจะยุบลงชัดเจน และไหมยึดติดได้เข้าที่มากขึ้น แนะนำให้คนไข้ปฏิบัติตามข้อแนะนำข้างต้นตลอดการรักษาค่ะ
ร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) แตกต่างกับการร้อยไหมแบบอื่นๆอย่างไร?
- ไหมอิตาลี จะมีลักษณะเป็นเงี่ยงสองหัวหันวิ่งเข้าหากัน มีคุณสมบัติยึดเกาะได้ดีเยี่ยมทำให้ผลลัพธ์ยกกระชับใบหน้าของเราสามารถอยู่ได้นานถึง 15 เดือน
- ไหมอิตาลี ผลิตด้วยวัสดุที่ปิดจุดอ่อนของไหมแบบอื่นๆ คือ จะมีความแข็งแรงกว่า และ ยืดหยุ่นกว่า
- ไหมอิตาลี มีคุณสมบัติในการละลายได้เองตามธรรมชาติ โดยจะสลายได้หมดเองทั้งหมด 100% ภายในระยะเวลาเพียง 6-8 เดือน
- ไหมอิตาลี มีเข็มอยู่ที่แต่ละด้านของปลายไหม ทำให้สามารถร้อยตามแนวทิศทางที่แพทย์ต้องการอย่างสะดวกมาก ทำหัตถการเสร็จเร็วขึ้น
- ไหมอิตาลี ถูกออกแบบมาให้ใช้เส้นไหมเพียงข้างละ 1 เส้น เมื่อเทียบกับการร้อยไหมแบบอื่นๆซึ่งจะใช้ไหมหลายสิบเส้น ทำให้เจ็บน้อย และไม่ต้องพักฟื้นนาน
ร้อยไหมอิตาลีต่างจากไหมมินท์ (MINT) อย่างไร?
เวลาเราสอบถามการร้อยไหมในท้องตลาดเรามักเจอไหมประเภท “ไหมมินท์” หรือ คำว่า “MINT” ซึ่งไม่ได้เกี่ยวโยงกับกลิ่นมินท์ที่เราเข้าใจกันค่ะ ตัวย่อ “MINT” ย่อมาจาก Minimal Invasive Non Surgical Thread คือ การร้อยไหมยกกระชับใบหน้า แบบไม่ต้องผ่าตัดนั่นเองค่ะ ไหมมินท์นี้เป็นชื่อของแบรนด์วัสดุไหมประเภท PDO นำเข้าจากเกาหลีค่ะ สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติเช่นกัน และได้รับรองจากอย.ไทยเหมือนกับ ไหมอิตาลี Definisse
สำหรับความแตกต่างก็จะขึ้นอยู่กับการใช้งานของเส้นไหมแบบ PDO ซึ่งมีคุณสมบัติเปราะบางกว่า การร้อยไหมอิตาลี (Definisse) และไม่ได้ยืดหยุ่นมากนัก หากบริเวณที่จะทำหัตถการนั้นมีไขมันมาก หรือ มีความหย่อนคล้อยสูง ไหมแบบ PDO นี้ก็อาจจะไม่เหมาะได้ค่ะ เพราะต้องใช้แรงดึงค่อนข้างสูง
นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิตกับไหมประเภท PDO (จากเกาหลี) นั้นค่อนข้างจะต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในการแสดงอารมณ์ผ่านทางใบหน้าค่ะ เช่น การหัวเราะ การหาวขณะที่ง่วงนอน การอ้าปากกว้าง การขยับใบหน้าที่มากไป จะเสี่ยงทำให้ไหมขาดง่ายทันที และเสี่ยงการติดเชื้อได้
อย่างไรก็ตามการร้อยไหมทุกรูปแบบควรได้รับการแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ในการร้อยไหม และ ได้รับการรับรองจากแพทยสภาเพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง
ทำไมต้องร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) ที่ Dermaster?
- ให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี ผ่านการรับรองจากแพทยสภา และเป็นสมาชิกบอร์ดของสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
- Dermaster มีรางวัลการันตีด้านการออกแบบใบหน้าเฉพาะบุคคลจากสถาบันชั้นนำระดับโลกจึงทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด
- มีที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านร้อยไหมอิตาลีที่ดูแลแบบ 1:1 พร้อมห้อง Private VIP เป็นส่วนตัวตลอดการให้บริการ
ความเสี่ยงของการร้อยไหมอิตาลี Definisse
- การร้อยไหมควรใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการร้อยไหม และเชี่ยวชาญในการออกแบบโครงสร้างใบหน้า (Facial Design Expertise) จะช่วยลดความเสี่ยงการวางแนวร้อยไหมที่ไม่ตรงจุดของการดึงกล้ามเนื้อที่ใบหน้า
- การเลือกใช้วัสดุไหมที่มีคุณภาพสูงเหมาะสมกับปัญหาเฉพาะบุคคล และเหมาะสมกับผิวหน้าของคนไข้ต้องใช้แพทย์ที่มีประสบการณ์สูง จะช่วยลดความเสี่ยงไหมไม่ได้คุณภาพ การติดเชื้อ และ ผลลัพธ์ของการร้อยไหมที่อาจจะไม่ได้ผลเต็มที่