• 02 714 4471
  • 342 Ekamai Rd, Bangkok 10110
  • Mon - Sun: 09:00 - 20:00
  • 02 246 0042
  • 44/1 Asoke-Dindaeng Rd, Bangkok 10310
  • Mon-Sun: 11:00 - 19:00
  • 088 152 4444
  • 16/7 North Sathorn Rd, Silom, Bangkok 10500
  • Mon-Sun: 11:00 - 20:00
  • 02 253 9269
  • 1025 Ploenchit Rd, Lumpini, Bangkok 10330
  • Mon-Sun: 11:00 - 20:00
  • 02 539 4888
  • 1416 ซอย ลาดพร้าว 87 แขวง คลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
  • Mon-Sun: 11:00 - 20:00

บล็อค

เคล็ดลับ

อาการแทรกซ้อนจากการดูดไขมันที่คุณต้องรู้

อาการแทรกซ้อนจากการดูดไขมันที่คุณต้องรู้

การดูดไขมันเป็นหัตถการที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินและปรับรูปร่างให้สมส่วนขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง วันนี้เรามาทำความเข้าใจถึง อาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการดูดไขมัน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างปลอดภัย

อาการแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย

อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นชั่วคราวและสามารถฟื้นตัวได้เอง หากดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม

  • อาการบวมและช้ำ – เกิดจากการที่เนื้อเยื่อถูกกระทบกระเทือนขณะดูดไขมัน อาการบวมอาจอยู่ได้นาน 2-4 สัปดาห์ และรอยช้ำอาจหายภายใน 2 สัปดาห์
  • อาการเจ็บปวดหรือระบม – ความเจ็บขึ้นอยู่กับบริเวณที่ดูดไขมัน โดยทั่วไปจะบรรเทาลงภายใน 1-2 สัปดาห์
  • ผิวหนังเป็นคลื่นหรือไม่เรียบเนียน – เกิดจากการดูดไขมันไม่สม่ำเสมอ หรือความยืดหยุ่นของผิวลดลง
  • ชาหรือความรู้สึกผิดปกติบริเวณที่ดูดไขมัน – เกิดจากเส้นประสาทถูกกระทบ แต่ส่วนใหญ่จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 3-6 เดือน

อาการแทรกซ้อนที่รุนแรงและต้องระวัง

แม้ว่าจะพบได้น้อย แต่หากเกิดขึ้นต้องรีบพบแพทย์ทันที

  • ติดเชื้อ (Infection) 
    • อาจเกิดจากการดูแลแผลไม่ดีพอ หรือจากอุปกรณ์ที่ไม่สะอาด
    • อาการ: มีไข้สูง บริเวณที่ดูดไขมันบวมแดง กดเจ็บ หรือมีหนอง
    • วิธีป้องกัน: ใช้ยาฆ่าเชื้อตามแพทย์สั่ง และรักษาความสะอาดของแผล
    • ลิ่มเลือดอุดตัน (Deep Vein Thrombosis – DVT)
  • เกิดจากการที่เลือดจับตัวเป็นก้อนในหลอดเลือดดำ อาจนำไปสู่ภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ปอด (Pulmonary Embolism) ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
    • อาการ: ขาบวม ปวดรุนแรง เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก
    • วิธีป้องกัน: เคลื่อนไหวร่างกายเบา ๆ หลังทำหัตถการ และดื่มน้ำมาก ๆ
  • ภาวะเสียเลือดมากผิดปกติ (Excessive Bleeding)
    • หากดูดไขมันออกมากเกินไป หรือแพทย์ใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ร่างกายเสียเลือดมากจนเกิดอาการหน้ามืด วิงเวียน หรือช็อกได้
    • วิธีป้องกัน: เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • ไขมันอุดตันในกระแสเลือด (Fat Embolism)
    • ไขมันที่ดูดออกอาจหลุดเข้าไปในกระแสเลือดและอุดตันหลอดเลือดที่ปอดหรือสมอง
    • อาการ: หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก หมดสติ
    • วิธีป้องกัน: ควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และไม่ดูดไขมันออกมากเกินไปในครั้งเดียว
  • น้ำในร่างกายเสียสมดุล (Fluid Imbalance)
    • การดูดไขมันปริมาณมากอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ จนเกิดอาการขาดน้ำ หรือมีน้ำคั่งในร่างกาย
    • อาการ: อ่อนเพลีย หัวใจเต้นผิดจังหวะ บวมผิดปกติ
    • วิธีป้องกัน: ควรดูดไขมันในปริมาณที่เหมาะสม และดื่มน้ำให้เพียงพอหลังการทำหัตถการ

วิธีป้องกันอาการแทรกซ้อนจากการดูดไขมัน

1. เลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน

  • เลือกแพทย์ที่มีใบรับรองและประสบการณ์ด้านศัลยกรรมความงาม
  • ตรวจสอบว่าเป็นคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
  • ใช้เทคนิคที่ปลอดภัย เช่น VASER, PAL (Power-Assisted Liposuction), Laser Lipo ที่ช่วยลดการกระทบกระเทือนของเนื้อเยื่อ

2. ประเมินสุขภาพก่อนทำการดูดไขมัน

  • ตรวจร่างกายและแจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบ เช่น โรคประจำตัวหรือการใช้ยา
  • หยุดใช้ยาและอาหารเสริมที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำ
  • หากมีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ต้องควบคุมอาการให้อยู่ในระดับปกติ

3. ไม่ดูดไขมันในปริมาณที่มากเกินไป

  • ปริมาณไขมันที่ดูดออกไม่ควรเกิน 5 ลิตรต่อครั้ง เพื่อป้องกันภาวะเสียเลือดและน้ำในร่างกายไม่สมดุล
  • ควรเว้นระยะระหว่างการทำหัตถการในกรณีที่ต้องดูดไขมันหลายบริเวณ

4. ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังทำอย่างเคร่งครัด

  • ใส่ชุดกระชับสัดส่วน (Compression Garment) อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ เพื่อช่วยลดบวมและกระชับผิว
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักหรือออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 4 สัปดาห์
  • รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงและดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกาย

วิธีรับมือกับอาการแทรกซ้อนจากการดูดไขมัน

1. อาการบวมและรอยช้ำ

  • ประคบเย็น ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการบวมและช้ำ
  • ยกบริเวณที่ดูดไขมันให้สูง (เช่น นอนหนุนหมอน) เพื่อลดการคั่งของของเหลว
  • ดื่มน้ำมาก ๆ และหลีกเลี่ยงอาหารเค็มเพื่อลดการบวมน้ำ

2. อาการปวดและระบม

  • ทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง เช่น พาราเซตามอล แต่ควรหลีกเลี่ยงยาแก้อักเสบ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน ซึ่งอาจทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการกดหรือนวดแรง ๆ บริเวณที่ดูดไขมัน

3. ผิวไม่เรียบเนียนหรือเป็นคลื่น

  • นวดเบา ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ (เริ่มหลังจากแผลหายดีแล้ว)
  • ใช้เทคนิคเสริม เช่น J-Plasma หรือ RF (Radio Frequency) Therapy เพื่อช่วยกระชับผิว

4. มีอาการชาหรือรู้สึกผิดปกติบริเวณที่ดูดไขมัน

  • อาการชามักเกิดจากเส้นประสาทถูกกระทบและจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 3-6 เดือน
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ยังมีอาการชาเพราะอาจเกิดบาดแผลโดยไม่รู้ตัว

5. อาการติดเชื้อ (ควรรีบพบแพทย์ทันที)

  • สังเกตอาการ: มีไข้สูง แผลบวมแดงมาก มีกลิ่นเหม็น หรือมีหนองไหลออกมา
  • รักษาความสะอาดของแผล ล้างแผลด้วยน้ำเกลือหรือตามคำแนะนำของแพทย์
  • ทานยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่งให้ครบ

6. อาการลิ่มเลือดอุดตัน (Deep Vein Thrombosis – DVT)

  • สังเกตอาการ: ขาบวม เจ็บ ปวดรุนแรง หรือมีอาการหายใจลำบาก
  • เคลื่อนไหวร่างกายเบา ๆ เช่น เดินช้า ๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
  • หลีกเลี่ยงการนั่งหรือนอนนิ่ง ๆ เป็นเวลานาน

7. อาการไขมันอุดตันในกระแสเลือด (Fat Embolism) – ภาวะฉุกเฉิน

  • สังเกตอาการ: หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก หน้ามืด หรือหมดสติ
  • วิธีรับมือ: รีบพบแพทย์ทันที! เพราะเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต

8. ภาวะเสียเลือดมากผิดปกติ

  • สังเกตอาการ: วิงเวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย หน้าซีด หัวใจเต้นเร็ว
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำเกลือแร่ช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย
  • หากมีอาการรุนแรง ให้รีบพบแพทย์ทันที

สรุป

แม้ว่าการดูดไขมันจะเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยม แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระวัง อาการแทรกซ้อนที่พบบ่อยได้แก่ บวม ช้ำ ผิวไม่เรียบ หรืออาการชา ส่วนอาการรุนแรงที่ต้องเฝ้าระวังได้แก่ ติดเชื้อ ลิ่มเลือดอุดตัน ไขมันอุดตัน หรือเสียเลือดมาก หากต้องการลดความเสี่ยง ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงของอาการแทรกซ้อน

Add Line@

โพสต์ยอดนิยม

อยากดูดไขมันแต่กลัวเจ็บ! มีวิธีไหนช่วยลดความเจ็บปวดได้บ้าง?
อาการแทรกซ้อนจากการดูดไขมันที่คุณต้องรู้
การดูดไขมัน (Liposuction) ควรทำตอนอายุเท่าไหร่ดีที่สุด?
โรคผมร่วงเป็นหย่อม Alopecia Areata
ปลูกผมสเต็มเซลล์ VS ปลูกผมถาวร
ทำไมบางคนทำศัลยกรรมยกกระชับหน้าอกแล้วหน้าอกแข็ง?
อาหารที่ควรกินและหลีกเลี่ยงหลังศัลยกรรมยกกระชับหน้าอก
เลือกตำแหน่งผ่าตัดเสริมหน้าอก
ดูดไขมันผู้ชาย เคล็ดลับปั้นหุ่นให้เฟิร์มในพริบตา!
การดูดไขมันกับความเข้าใจผิดที่ต้องแก้ไข