เซลลูไลท์ VS ไขมัน ดูดไขมันช่วยแก้ปัญหาได้จริงไหม ?
เซลลูไลท์ VS ไขมัน แตกต่างกันอย่างไร ?
ปัญหาเรื่องรูปร่างและผิวพรรณมักเป็นสิ่งที่หลายคนกังวล โดยเฉพาะ “เซลลูไลท์” และ “ไขมันส่วนเกิน” แม้จะฟังดูคล้ายกัน แต่ทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่างกันมาก มาทำความเข้าใจกัน!
เซลลูไลท์คืออะไร? (Cellulite)
เซลลูไลท์ (Cellulite) คือผิวที่มีลักษณะเป็นลอนคลื่นหรือขรุขระคล้ายเปลือกส้ม มักพบที่ต้นขา สะโพก หรือหน้าท้อง เกิดจากไขมันใต้ผิวหนังที่ถูกเส้นใยพังผืด (Fibrous Bands) ดึงผิวหนังลง ทำให้เกิดรอยบุ๋มหรือความไม่เรียบเนียน สามารถเป็นได้ทุกเพศวัยไม่ว่าจะ อ้วน หรือ ผอม ”
สาเหตุที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์
เกิดจากการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังที่ถูกกดทับด้วยเส้นใยพังผืด (Fibrous Bands) หรือ เกิดจาก พันธุกรรม ฮอร์โมน การไหลเวียนเลือดไม่ดี และ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงทำให้เกิดลักษณะผิวที่ไม่เรียบเนียน แม้จะไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง แต่กลับเป็นปัญหาด้านความมั่นใจของใครหลายคน
ไขมันส่วนเกินคืออะไร? (Excess Fat)
ไขมันส่วนเกิน คือไขมันที่สะสมในร่างกายเมื่อบริโภคพลังงานมากกว่าที่เผาผลาญ มักพบในบริเวณที่สะสมไขมันได้ง่าย เช่น หน้าท้อง ต้นขา สะโพก และต้นแขน
สาเหตุที่ทำให้เกิดไขมันส่วนเกิน
การบริโภคอาหารที่มีแคลอรีสูง เช่น รับประทานอาหารที่มี ของมัน ของทอด และ ของหวาน
การไม่ออกกำลังกาย หรือ อายุที่มากขึ้น ซึ่งทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง เกิดจากพันธุกรรมและฮอร์โมน ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน และเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ
วิธีลดเซลลูไลท์: ทำอย่างไรให้ผิวเรียบเนียนขึ้น?
หากคุณกำลังมองหาวิธีลดเซลลูไลท์อย่างได้ผล DERMASTER ได้รวบรวมวิธีที่ดีที่สุดมาให้คุณแล้ว!
1. การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตสามารถช่วยลดเซลลูไลท์ได้อย่างเห็นผล
- ควบคุมอาหาร
- ดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
- ลดอาหารที่มีไขมันทรานส์ น้ำตาล และโซเดียมสูง
- เพิ่มผัก ผลไม้ และอาหารที่มีไฟเบอร์ เพื่อช่วยขับสารพิษและปรับปรุงระบบไหลเวียนเลือด
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- เน้นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น วิ่ง เดินเร็ว หรือปั่นจักรยาน เพื่อเผาผลาญไขมัน
- เสริมด้วยการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง เช่น สควอทหรือแพลงก์ เพื่อกระชับกล้ามเนื้อในบริเวณที่มีเซลลูไลท์
2. การนวดกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
- การนวดด้วยมือหรือเครื่องนวดไฟฟ้า ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและลดการกักเก็บของเหลวใต้ผิว
- เทคนิคที่นิยม เช่น Lymphatic Drainage หรือ Venus Legacy สามารถลดเซลลูไลท์ ลดเลือนริ้วรอย และทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
3. การใช้ครีมหรือเซรั่มลดเซลลูไลท์
- ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เรตินอล หรือสารกระชับผิว สามารถช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ควรใช้อย่างสม่ำเสมอ และนวดเบา ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
4. การใช้วิธีทางการแพทย์สำหรับลดเซลลูไลท์
สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพ เช่น:
- Cellulaze
- เลเซอร์ที่ช่วยตัดพังผืดใต้ผิวหนัง สลายไขมัน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- VelaShape หรือ Venus Legacy
- ใช้คลื่นวิทยุ (RF) ร่วมกับการดูดสุญญากาศ ช่วยลดไขมันใต้ผิวและกระชับผิว
- J Plasma (Renuvion)
- เทคโนโลยีที่ใช้พลังงานพลาสมาและ RF เพื่อกระชับผิวและลดเซลลูไลท์ในขั้นตอนเดียว
- BodyTite หรือ RFAL
- ใช้คลื่นวิทยุสลายไขมันพร้อมกระชับผิว ลดลอนคลื่นของเซลลูไลท์
5. การดูแลผิวเพิ่มเติม
- ขัดผิว (Exfoliation)
- การขัดผิวช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
- ใช้สครับที่มีส่วนผสมของเกลือหรือกาแฟเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- อาบน้ำเย็น-น้ำอุ่นสลับกัน
- ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและลดการกักเก็บของเหลว
6. การรักษาแบบธรรมชาติ
- แปรงผิวแห้ง (Dry Brushing)
- ใช้แปรงขัดผิวเบา ๆ เพื่อกระตุ้นระบบน้ำเหลืองและการไหลเวียนเลือด
- พอกผิวด้วยดินเหนียว (Clay Mask)
- ดินเหนียวช่วยดูดซับของเสียและลดการกักเก็บน้ำใต้ผิว
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- รักษาน้ำหนักให้คงที่: การโยโย่จากการลดน้ำหนักเร็วเกินไปอาจทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเซลลูไลท์เด่นชัดขึ้น
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากวิธีธรรมชาติไม่ได้ผล การปรึกษาแพทย์หรือผู้ชำนาญจะช่วยให้คุณเลือกวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม