• 02 714 4471
  • 342 Ekamai Rd, Bangkok 10110
  • Mon - Sun: 09:00 - 20:00
  • 02 246 0042
  • 44/1 Asoke-Dindaeng Rd, Bangkok 10310
  • Mon-Sun: 11:00 - 19:00
  • 088 152 4444
  • 16/7 North Sathorn Rd, Silom, Bangkok 10500
  • Mon-Sun: 11:00 - 20:00
  • 02 253 9269
  • 1025 Ploenchit Rd, Lumpini, Bangkok 10330
  • Mon-Sun: 11:00 - 20:00
  • 02 539 4888
  • 1416 ซอย ลาดพร้าว 87 แขวง คลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
  • Mon-Sun: 11:00 - 20:00

บล็อค

เคล็ดลับ

ดูดไขมันผู้ชาย เคล็ดลับปั้นหุ่นให้เฟิร์มในพริบตา!

ดูดไขมันผู้ชาย เคล็ดลับปั้นหุ่นให้เฟิร์มในพริบตา!

“เพราะความมั่นใจสร้างได้” เหตุผลที่ผู้ชายเลือกดูดไขมันเพื่อปั้นรูปร่างในยุคใหม่ ในยุคที่ภาพลักษณ์ และความมั่นใจมีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิต การดูแลรูปร่างไม่ได้เป็นเรื่องเฉพาะของผู้หญิงอีกต่อไป ผู้ชายยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและรูปร่างมากขึ้น การดูดไขมันจึงกลายเป็นหนึ่งในวิธีที่ตอบโจทย์ เพราะช่วยให้รูปร่างกระชับได้รวดเร็วในจุดที่ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขได้

เหตุผลที่ผู้ชายยุคใหม่หันมาดูดไขมัน

  1. รูปร่างมีผลต่อความมั่นใจ
    รูปร่างที่สมส่วนช่วยเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจ ทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงาน เพราะความประทับใจแรกเริ่มสำคัญเสมอ
  2. ไม่ใช่ทุกคนที่มีเวลาออกกำลังกายอย่างเต็มที่
    สำหรับคนที่งานยุ่งหรือตารางชีวิตแน่นเอี้ยด การดูดไขมันช่วยลดไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ลดยาก เช่น หน้าท้องหรือเอว ทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ในระยะเวลาอันสั้น
  3. แก้ไขปัญหาไขมันเฉพาะจุด
    แม้จะออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ไขมันบางส่วน เช่น “พุงล่าง” หรือ “ปีกหลัง” มักไม่หายไปง่าย การดูดไขมันช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างตรงจุด
  4. เสริมรูปร่างให้คมชัด
    ผู้ชายหลายคนเลือกดูดไขมันเพื่อสร้างความชัดเจนให้กล้ามเนื้อ เช่น ซิกแพค หรือเสริมสัดส่วนให้เข้ารูปมากขึ้น
  5. ความคาดหวังในสังคมเปลี่ยนไป
    ภาพลักษณ์ของผู้ชายในยุคนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความแข็งแกร่ง แต่ยังรวมถึงการดูแลตัวเองในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การแต่งตัวไปจนถึงรูปร่าง

ข้อดีที่มากกว่าความหล่อ

การดูดไขมันไม่ใช่แค่ช่วยให้รูปร่างดี แต่ยังส่งเสริมให้คนที่ทำเริ่มใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น เพราะหลังจากได้รูปร่างที่พอใจแล้ว ผู้ชายส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะปรับพฤติกรรม เช่น การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะการดูแลตัวเองไม่ใช่เรื่องของเพศ แต่คือเรื่องของคุณภาพชีวิต

การดูดไขมันไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนกับตัวเองในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจในรูปร่าง การสร้างโอกาสใหม่ ๆ หรือการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในแบบที่คุณต้องการ

ผู้ชายยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและรูปร่าง ไม่ต้องรอให้ความเปลี่ยนแปลงมาโดยบังเอิญ การตัดสินใจดูดไขมันอาจเป็นก้าวแรกสู่การมีชีวิตที่มั่นใจและมีคุณภาพในทุกด้านของชีวิต!

5 จุดยอดฮิตที่ผู้ชายมักเลือกดูดไขมัน

แม้ว่าการดูดไขมันจะเป็นวิธีปรับรูปร่างที่ได้รับความนิยมในทุกเพศ แต่ผู้ชายมักมีจุดสะสมไขมันที่แตกต่างจากผู้หญิง ซึ่งบริเวณเหล่านี้มักเป็นจุดที่ลดยากแม้จะออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารอย่างจริงจัง

  1. หน้าท้อง (Abdomen)

ดูดไขมันหน้าท้อง โดยเฉพาะส่วนล่าง มักเป็นจุดที่ลดยากสำหรับผู้ชาย การดูดไขมันช่วยลดพุงและทำให้หน้าท้องดูแบนราบ เหมาะสำหรับคนที่อยากให้ซิกแพคดูเด่นชัดขึ้น

  1. เอวและปีกหลัง (Love Handles & Flanks)

“ห่วงยาง” บริเวณเอวด้านข้างและไขมันสะสมบริเวณหลังล่างเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ชาย จุดนี้มักทำให้รูปร่างดูตัน แม้จะผอมในบริเวณอื่น การดูดไขมันช่วยให้ลำตัวดูเพรียวและสมส่วนมากขึ้น

  1. เหนียง + กรอบหน้า (Double Chin)

ไขมันสะสมใต้คางหรือเหนียงเป็นอีกจุดที่ลดได้ยาก การดูดไขมันบริเวณนี้ช่วยให้คางและกรอบหน้าดูชัดเจนขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูสมาร์ทและมั่นใจมากขึ้น

  1. หน้าอก (Chest)

เป็นการดูดไขมันบริเวณใต้ราวนมสำหรับผู้ชายบางคนที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณหน้าอก (Gynecomastia) อาจทำให้หน้าอกดูใหญ่เกินไปและขาดความมั่นใจ การดูดไขมันช่วยลดขนาดหน้าอกให้เข้ารูปและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

  1. การดูดไขมันสร้างซิกแพค

การดูดไขมันซิกแพคเป็นเทคนิคที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องของคุณดูคมชัดขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีกล้ามหน้าท้องอยู่แล้วแต่มีไขมันส่วนเกินปกคลุม ทำให้ซิกแพคไม่เด่นชัด การดูดไขมันสร้างซิกแพค จะช่วยให้รูปร่างดูดี มั่นใจขึ้นมากๆ

ความแตกต่างในการดูดไขมันระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย

สรีระและการกระจายของไขมัน

  • ผู้หญิง: มีการสะสมไขมันมากบริเวณสะโพก ต้นขา ก้น และหน้าท้อง โดยมักเป็นไขมันใต้ผิวหนัง
  • ผู้ชาย: มีการสะสมไขมันมากบริเวณหน้าท้อง เอว และบริเวณเหนือเอว โดยส่วนใหญ่เป็นไขมันในช่องท้อง

เทคนิคการดูดไขมัน

  • ผู้หญิง: เน้นการสร้างสัดส่วนที่นุ่มนวล เพิ่มความกระชับ และดูเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ชาย: เน้นการสร้างกล้ามเนื้อที่ชัดเจน เส้นแนวกล้ามที่คมชัด

จุดประสงค์ของการดูดไขมัน

  • ผู้หญิง: ต้องการสัดส่วนที่เพรียว หรือ หุ่นทรงนาฬิทราย ทำให้ดูเซ็กซี่
  • ผู้ชาย: ต้องการกล้ามเนื้อที่ชัดเจน ลดไขมันส่วนเกิน เพิ่มความเป็นชาย

ปริมาณไขมันที่ดูด

  • ผู้หญิง: มักดูดไขมันในปริมาณน้อยกว่า เน้นความละเอียดและความสมมาตร
  • ผู้ชาย: มักดูดไขมันในปริมาณมากกว่า เน้นความคมชัดของกล้ามเนื้อ

ความยืดหยุ่นของผิวหนัง

  • ผู้หญิง: ผิวหนังมักมีความยืดหยุ่นสูง ฟื้นตัวได้เร็ว
  • ผู้ชาย: ผิวหนังแน่นกระชับน้อยกว่า อาจต้องใช้เทคนิคพิเศษในการรั้งกระชับ

ตำแหน่งที่นิยมดูดไขมัน

  • ผู้หญิง: บริเวณต้นแขน สะโพก หน้าท้อง SEXY LINE เอวเอส ต้นขา,เหนียง กรอบหน้า
  • ผู้ชาย: บริเวณหน้าท้อง สองข้างเอว , Six Pack ,เหนียง กรอบหน้า

ผลลัพธ์หลังการดูดไขมัน

  • ผู้หญิง: มุ่งเน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่ดูแข็งกระด้าง
  • ผู้ชาย: มุ่งเน้นความคมชัด กระชับ แข็งแกร่ง

ระยะเวลาพักฟื้น

  • ผู้หญิง: มักฟื้นตัวเร็วกว่า มีความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อสูง
  • ผู้ชาย: อาจใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าเล็กน้อย เนื่องจากเนื้อเยื่อแน่นกว่า

ข้อสำคัญ คือการปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการด้านดูดไขมันและออกแบบรูปร่าง ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพราะแต่ละคนมีความแตกต่างทั้งสรีระ เป้าหมาย และความต้องการที่ไม่เหมือนกัน

ความเสี่ยงและข้อพิจารณาในการดูดไขมันในผู้ชาย

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

  1. ผลข้างเคียงทางกายภาพ:
    • อาการบวมและฟกช้ำ: เป็นผลจากกระบวนการดูดไขมันที่เกิดการกระทบของเนื้อเยื่อ แต่จะลดลงภายในไม่กี่สัปดาห์
    • ผิวไม่เรียบ: หากดูดไขมันออกมากเกินไป หรือไม่ได้ทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
  2. ภาวะแทรกซ้อนจากการดูดไขมัน:
    • การติดเชื้อ: หากกระบวนการดูแลหลังการผ่าตัดไม่ถูกต้อง
    • เลือดออก: เกิดจากการบาดเจ็บของหลอดเลือดในบริเวณที่ทำการดูดไขมัน
    • อาการชา: เนื่องจากเส้นประสาทได้รับผลกระทบ อาการชามักเป็นชั่วคราว แต่ในบางกรณีอาจถาวร
  3. ปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต:
    • อาจเกิดการอุดตันของไขมันในหลอดเลือด (Fat Embolism) ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต หากเกิดขึ้นต้องได้รับการรักษาโดยด่วน
  4. ความเสี่ยงจากการดมยาสลบหรือยาชา:
    • อาการแพ้ยาชาหรือภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ

ข้อพิจารณาก่อนตัดสินใจดูดไขมันในผู้ชาย

  1. การประเมินสุขภาพโดยรวม:
    • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อน
    • ควรหยุดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดี
  2. เป้าหมายของการดูดไขมัน:
    • การดูดไขมันไม่ใช่วิธีลดน้ำหนัก แต่เป็นการปรับรูปร่าง ดังนั้นน้ำหนักอาจไม่ลดลงอย่างที่คิด
    • การออกกำลังกายและควบคุมอาหารยังเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาผลลัพธ์ในระยะยาว
  3. เลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐาน:
    • เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการดูดไขมันผู้ชาย เพราะต้องการเทคนิคเฉพาะเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูสมาร์ทและเป็นธรรมชาติ
    • ตรวจสอบใบอนุญาตและมาตรฐานความปลอดภัยของสถานพยาบาล
  4. เตรียมตัวสำหรับการฟื้นตัว:
    • ระยะเวลาฟื้นตัวในผู้ชายอาจนานกว่าผู้หญิง เนื่องจากไขมันในผู้ชายมีความหนาแน่นกว่า
    • อาจต้องใส่ชุดกระชับสัดส่วนและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  5. ความคาดหวังที่เหมาะสม:
    • ควรตั้งความคาดหวังที่เป็นจริงเกี่ยวกับผลลัพธ์ การดูดไขมันช่วยปรับรูปร่างได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างร่างกายทั้งหมด

การรักษารูปร่างหลังการดูดไขมันในผู้ชาย

หลังจากการดูดไขมัน ผลลัพธ์จะดูชัดเจนและน่าประทับใจยิ่งขึ้นหากคุณดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม การรักษารูปร่างให้ดีหลังการทำเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแม้ไขมันในบริเวณที่ถูกดูดจะไม่กลับมา แต่หากไม่ใส่ใจสุขภาพ ไขมันอาจสะสมในจุดอื่นแทนได้

1. การควบคุมอาหาร

  • เลือกอาหารที่มีประโยชน์:
    • เน้นโปรตีนไม่ติดมัน เช่น ไก่, ปลา, เต้าหู้ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
    • เพิ่มผักและผลไม้สดที่มีใยอาหารสูง ช่วยการย่อยและลดความอยากอาหาร
    • ลดการบริโภคไขมันอิ่มตัว น้ำตาล และอาหารแปรรูป
  • ควบคุมปริมาณแคลอรี:
    • คำนวณแคลอรีที่เหมาะสมต่อวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมไขมันส่วนเกิน

2. การออกกำลังกาย

  • ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ:
    • เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินและเสริมสุขภาพหัวใจ
  • เวทเทรนนิ่ง:
    • เน้นสร้างกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน เช่น หน้าท้อง ไหล่ และหลัง เพื่อเสริมรูปร่างให้แข็งแรงและดูสมาร์ท
  • การออกกำลังกายแบบ HIIT (High-Intensity Interval Training):
    • ช่วยเผาผลาญไขมันได้รวดเร็วและช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย

3. การดื่มน้ำและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อสุขภาพ

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ:
    • ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและลดการสะสมไขมัน
  • หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่:
    • แอลกอฮอล์มีแคลอรีสูงและส่งผลต่อการสะสมไขมัน โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง
    • บุหรี่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของร่างกายและสุขภาพโดยรวม

4. ใส่ชุดกระชับสัดส่วน (Compression Garment)

  • ช่วยลดบวมหลังการดูดไขมันและทำให้ผิวกระชับเข้าที่เร็วขึ้น
  • ควรใส่ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยปกติจะต้องใส่ 24 ชั่วโมงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
  • และลดลงเหลือ 12 ชั่วโมง ในช่วงสัปดาห์ที่ 3-4 เพื่อให้ผลลัพธ์หลังดูดไขมัน เฟิร์มกระชับเข้าที่เร็วขึ้น

5. การติดตามผลกับแพทย์

  • เข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจสอบการฟื้นตัวและติดตามผลลัพธ์
  • แจ้งแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงผิดปกติ เจ็บมาก หรือมีไข้

6. การสร้างวินัยและความต่อเนื่อง

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม:
    • การรักษาผลลัพธ์หลังการดูดไขมันต้องอาศัยการดูแลตนเองต่อเนื่อง
    • ตั้งเป้าหมายสุขภาพระยะยาว เช่น ลดเปอร์เซ็นต์ไขมันหรือเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
  • จัดตารางชีวิต:
    • เลือกเวลาสำหรับออกกำลังกายและเตรียมอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

สรุป

การรักษารูปร่างหลังการดูดไขมันในผู้ชายไม่ได้จบลงที่ห้องผ่าตัด แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องมีการดูแลตนเองในเรื่องอาหาร การออกกำลังกาย และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ การสร้างวินัยเหล่านี้ไม่เพียงช่วยคงรูปร่างที่ดี แต่ยังเสริมสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย!

Add Line@

โพสต์ยอดนิยม

เลือกตำแหน่งผ่าตัดเสริมหน้าอก
ดูดไขมันผู้ชาย เคล็ดลับปั้นหุ่นให้เฟิร์มในพริบตา!
การดูดไขมันกับความเข้าใจผิดที่ต้องแก้ไข
ใครเหมาะกับการดูดไขมัน และใครที่ควรหลีกเลี่ยง? คำตอบที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจปรับรูปร่าง
เซลลูไลท์ VS ไขมัน ดูดไขมันช่วยแก้ปัญหาได้จริงไหม ?
ความสำคัญของการดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน ที่ DERMASTER ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?
PRESTIGE : Nicha “Mint” Lojanagosin on Dermaster’s Upcoming Ratchaphruek Venture
ข่าว – เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ระดับโลกอันดับ 1 ของเทคโนโลยี สลายไขมันด้วยความเย็น  Coolsculpting Elite
ข่าว – Dermaster ได้รับรางวัล JOY Partner Award 2023
รีวิว – เสริมหน้าอก Motiva Ergonomix2 “คุณมะปราง – สุนทรี อ้วนอินทร์” ดาว Tiktok ผู้ติดตามกว่า 4 ล้าน Followers