ความสำคัญของการดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน ที่ DERMASTER ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?
การดูดไขมันเป็นกระบวนการศัลยกรรมที่ช่วยปรับรูปทรงของร่างกายให้ได้สัดส่วนตามต้องการ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน เป็นสิ่งสำคัญ ที่ปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยให้คุณฟื้นตัวอย่างปลอดภัยและมีผลลัพธ์ที่พึงพอใจที่สุด
การดูแลตัวเองช่วงพักฟื้นหลังจากดูดไขมัน
- ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด
หลังการดูดไขมัน แพทย์จะให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง เช่น การใช้ยารักษาแผล ยาแก้ปวด และการสวมใส่ชุดกระชับสัดส่วน เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญในการลดอาการบวมและปรับรูปร่างของคุณ
- ห้ามแผลดูดไขมันโดนน้ำ
การป้องกันความชื้นในแผล เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งหลังการดูดไขมัน เนื่องจากสารละลาย Tumescent ที่แพทย์ฉีดเข้าใต้ผิวหนังก่อนการดูดไขมันสามารถซึมออกจากร่างกายผ่านแผลเล็กๆ ได้ แต่เราต้องระมัดระวังไม่ให้น้ำ หรือความชื้นซึมเข้าสู่แผลโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้แผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หลีกเลี่ยงการอาบน้ำในช่วงแรกของการพักฟื้น
หากจำเป็นต้องอาบน้ำสามารถใช้พลาสเตอร์กันน้ำปิดแผล หรือ เช็ดตัวแทนการอาบน้ำในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพื่อป้องกันเกิดการอักเสบของแผล
- การใส่ชุดกระชับสัดส่วนหลังดูดไขมัน (Compression Garment)
การสวมใส่ชุดกระชับสัดส่วนหลังดูดไขมันจะช่วยลดอาการบวมและช่วยให้ผิวหนังปรับตัวเข้ากับรูปร่างใหม่ คุณควรใส่ตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ต้องใส่ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง หลังสัปดาห์ที่ 3 – 4 ลดลงเหลือเพียง 12 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น
- การดูแลแผลหลังดูดไขมัน
เนื่องจากการดูดไขมันมีแผลขนาดเล็ก เพียง 3 มิลลิเมตร สามารถทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือหรือผลิตภัณฑ์ที่แพทย์แนะนำ หรือสามารถใช้บริการ Aftercare ทาง Dermaster ในการทำความสะอาดแผล ได้ค่ะ
- ควรรับประทานอาหารที่เหมาะสม
รับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และปลา เพื่อช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อ เพิ่มอาหารที่มีวิตามินซี เช่น ส้มและฝรั่ง เพื่อช่วยซ่อมแซมร่างกาย หลีกเลี่ยงอาหารที่มัน หวาน เค็มจัด และมีโซเดียมสูง เพราะอาจทำให้อาการบวมแย่ลง
- ดื่มน้ำ
ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน เพื่อชดเชยของเหลว น้ำมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดอาการบวมและช่วยขับสารพิษในร่างกาย
- ออกกำลังกายเบาๆ
หลังจากดูดไขมัน 1-2 วันแรก คุณสามารถเริ่มเดินเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักจนกว่าร่างกายจะฟื้นตัวเต็มที่ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
เพราะจะส่งผลต่อกระบวนการฟื้นตัวของร่างกาย และเป็นพฤติกรรมที่ทำให้แผลหายช้า
- พักผ่อนให้เพียงพอ
นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน พยายามนอนราบหรือนอนตะแคง เพื่อลดแรงกดบนแผล หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันอาการบวมและลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือด
- ติดตามผลการรักษากับแพทย์
อย่าลืมเข้าพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อประเมินผลลัพธ์และตรวจสอบการฟื้นตัว หากคุณมีข้อสงสัยหรือพบอาการผิดปกติ เช่น แผลแดง บวมมากผิดปกติ หรือเจ็บปวดรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ทันที
การรักษาผลลัพธ์ระยะยาวหลังการดูดไขมัน
หลังการดูดไขมัน รูปร่างและสัดส่วนจะเล็กลงและ กระชับอย่างชัดเจน แต่เซลล์ไขมันในส่วนอื่นยังคงอยู่หากพฤติกรรมการกินหรือการใช้ชีวิตไม่เปลี่ยนแปลงไขมันจะกลับมาสะสมในส่วนที่เหลือทำให้รูปร่างเปลี่ยนไปอีกครั้งการรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานนั้นจำเป็นต้องอาศัยการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องทั้งหมดล้วนช่วยให้คุณรักษารูปร่างที่สวยงามและสุขภาพดีไปพร้อมกันในระยะยาว
เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อผลลัพธ์ที่อยู่กับคุณไปอีกนาน!
- การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ รับประทานอาหารสมดุล มีสารอาหารครบถ้วน
- เน้นโปรตีน: เช่น เนื้อปลา ไข่ขาว และธัญพืช เพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อและรักษาระดับพลังงาน
- ผักและผลไม้: เพื่อรับวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ที่ช่วยระบบย่อยอาหาร
- ลดการบริโภคน้ำตาลและเกลือ: เพื่อป้องกันการบวมน้ำและการสะสมไขมันใหม่
- รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- การควบคุมน้ำหนักเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาผลลัพธ์หลังดูดไขมัน
- ควบคุมแคลอรี : รับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมกับพลังงานที่ร่างกายต้องการ
- ลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด อาหารจานด่วน และขนมหวาน
- การออกกำลังกาย
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
- ผสมผสานการออกกำลังกายแบบแอโรบิกและการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อให้รูปร่างเฟิร์ม กระชับ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- น้ำช่วยในการเผาผลาญไขมันและล้างสารพิษในร่างกาย คุณควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว หรือมากกว่า หากคุณออกกำลังกาย
- สวมชุดกระชับสัดส่วนในระยะแรก
- หลังการดูดไขมัน การสวมชุดกระชับสัดส่วนในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกจะช่วยให้ผิวหนังเข้ารูปและลดความหย่อนคล้อย
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เพิ่มไขมันสะสม
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีแคลอรีสูงและลดการเผาผลาญไขมัน
- งดสูบบุหรี่ เพราะส่งผลเสียต่อระบบไหลเวียนโลหิตและการฟื้นตัวของร่างกาย
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืนช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยป้องกันการสะสมไขมัน
- ติดตามผลและปรึกษาแพทย์เป็นระยะ
- ควรพบแพทย์เพื่อติดตามผลการดูดไขมันตามนัดหมาย หากพบปัญหา เช่น การเปลี่ยนแปลงของรูปร่างหรือสุขภาพผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
- รักษาความสมดุลของร่างกายและจิตใจ
- ความเครียดอาจทำให้กินอาหารมากเกินไป ลองหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น การนั่งสมาธิหรืออ่านหนังสือ เพื่อช่วยลดโอกาสการกินเกินความจำเป็น
- ตรวจสุขภาพและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเป็นระยะ
- การติดตามผลการดูดไขมันกับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญช่วยให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ยังดีอยู่ และคุณจะได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณเสมอ
การติดตามอาการและประเมินผลหลังการดูดไขมัน
การติดตามอาการและการติดตามผลหลังการดูดไขมันที่ Dermaster ถือเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการดูแลคนไข้ เพื่อให้มั่นใจว่าการฟื้นตัวดำเนินไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะคอยติดตามผลอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน พร้อมให้คำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อดูแลรูปร่างให้เข้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงช่วยปรับรูปร่างให้ดูดีขึ้น แต่ยังเพิ่มความมั่นใจให้กับคนไข้ในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่
- การติดตามอาการหลังการดูดไขมัน
ช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
- พักผ่อนให้เพียงพอ ให้ร่างกายฟื้นตัวเต็มที่ หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป
- สังเกตแผลและของเหลวที่ไหลออกมา
- หากพบว่ามีเลือดไหลมากผิดปกติหรือมีของเหลวลักษณะผิดปกติ (เช่น มีกลิ่นหรือสีเหลืองข้น) ควรแจ้งแพทย์ทันที
- ใช้ยาอย่างเหมาะสม รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง เช่น ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ
- งดกิจกรรมที่อาจเพิ่มแรงดันในร่างกาย เช่น การยกของหนัก ไอรุนแรง หรือเบ่ง
ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก หลังการผ่าตัด
- สวมชุดกระชับสัดส่วนใส่ตลอดเวลาภายใน 24 ชั่วโมง (Compression Garment) และสัปดาห์ 3- 4 ลดลงเหลือวันละ 12 ชั่วโมง ยกเว้นช่วงอาบน้ำ เพื่อช่วยลดบวมและรักษารูปร่าง
- ดูแลแผลอย่างถูกวิธี
- ล้างแผลด้วยน้ำเกลือหรือทำความสะอาดตามคำแนะนำของแพทย์
- ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซสะอาด
- หลีกเลี่ยงน้ำที่อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อ
- เช่น การแช่น้ำในอ่างหรือสระว่ายน้ำ
- เริ่มเคลื่อนไหวเบา ๆ เช่น การเดินเพื่อป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน (DVT) แต่ควรเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมาก
ช่วง 3-4 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
- ติดตามผลกับแพทย์ ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจความคืบหน้าของการฟื้นตัว
- สังเกตอาการผิดปกติ หากมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์:
- อาการบวมแดงรุนแรง
- ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ
- มีหนองหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์
- กลับเข้าสู่กิจวัตรประจำวันอย่างค่อยเป็นค่อยไป สามารถเริ่มทำงานเบา ๆ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก
ช่วง 6 สัปดาห์ขึ้นไป
- เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น บริเวณที่ดูดไขมันจะเริ่มเข้าที่และบวมลดลง
- รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง
- ออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อรักษาผลลัพธ์
- ปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัย เช่น การดูแลผิวบริเวณที่ดูดไขมัน หรือปัญหาเรื่องความไม่สมมาตร
- การประเมินผลหลังการดูดไขมัน
1 เดือนหลังการผ่าตัด
- ตรวจสอบรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงและเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่วางไว้
- แพทย์จะตรวจความสมมาตรและลักษณะผิวหนัง
3-6 เดือนหลังการผ่าตัด
- รูปร่างจะเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้นเมื่ออาการบวมลดลงทั้งหมด
- ผิวหนังและเนื้อเยื่อจะกระชับขึ้นตามธรรมชาติ
- หากผู้ป่วยควบคุมน้ำหนักและออกกำลังกายสม่ำเสมอ ผลลัพธ์จะคงอยู่ในระยะยาว
- หากมีไขมันกลับมาสะสมอีก อาจสะสมในบริเวณอื่นที่ไม่ได้ทำการดูดไขมัน
- การดูแลตัวเองและคำแนะนำจากแพทย์
- การสวมใส่ชุดกระชับ
- ควรใส่ชุดกระชับสัดส่วนต่อเนื่องประมาณ 6-8 สัปดาห์
- การปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องยา
- รับประทานยาแก้อักเสบหรือยาลดปวดตามที่แพทย์สั่ง
- การปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ
- หากมีอาการเจ็บปวดรุนแรง บวมแดง หรือหนองจากแผล ควรรีบพบแพทย์ทันที
ข้อควรหลีกเลี่ยง
- การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงพักฟื้น
- การกดหรือถูบริเวณที่ทำการดูดไขมัน
- การใส่ชุดรัดแน่นเกินไปที่อาจทำให้เกิดการกดทับและการไหลเวียนไม่ดี